ลุงจำรัส โต้ มทภ.3 จนท.สร้างความกลัว-บุกค้นบ้านพลการ ไม่ใช่ขอความร่วมมือ

“จำรัส” แกนนำเกษตรกรเชียงใหม่-ลำพูน โต้แม่ทัพภาคที่ 3 ยันถูกบังคับ ข่มขู่ ขืนใจ ไม่ได้ขอความร่วมมือแค่วาจา มีนอกเครื่องแบบตรวจค้นบ้านพลการ แสดงกิริยาพูดจากไม่สุภาพ ทำให้ครอบครัวหวาดกลัว จำยอมเซ็นหนังสือไม่ไปให้กำลังใจ “ปู” เผยสารวัตรแม่แฝก มาขอโทษที่บ้าน ร้องขอไม่เอาเรื่อง หลังถูกสอบวินัยบอกยอมเซ็นไม่ติดใจเอาความ ชี้สำนึก-ยอมรับผิดแล้ว บอกไม่นำชาวบ้าน-ผู้สูงอายุไปร่วม ใครสมัครใจไปเอง ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ห้ามไม่ได้ ไม่มีบังคับชี้นำ

วันที่ 20 สิงหาคม 2560 นายจำรัส ลุมมา ประธานสหพันธ์เกษตรกรเชียงใหม่-ลำพูน ในฐานะแกนนำกลุ่มผู้ปลูกข้าว เผยกรณี พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.กองทัพภาคที่ 3) ออกมาระบุว่า เจ้าหน้าที่ไปขอความร่วมมือด้วยวาจา ไม่ได้บังคับให้เซ็นหนังสือยินยอม ไม่ไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนศาลตัดสินคดีจำนำข้าว วันที่ 25 สิงหาคมนี้ ที่กรุงเทพฯ ว่า ยืนยัน ถูกขอความร่วมมือแกมบังคับ ข่มขู่ ขืนใจ ให้เซ็นหนังสือยินยอมดังกล่าว มีตำรวจ (สารวัตรแม่แฝก) ทหารในเครื่องแบบ 7-8 นาย และเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอีกหลายนาย บุกเข้ามาที่บ้าน เพื่อมาขอความร่วมมือดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ได้เดินตรวจค้นบริเวณบ้านโดยพลการ เพื่อหาสิ่งผิดกฏหมาย แต่ไม่พบ พร้อมแสดงกิริยา พูดจาไม่สุภาพ ถ่ายรูปตนเอง และคนในครอบครัวไป เพื่อให้หวาดกลัวและกดดันให้ยินยอมเซ็นหนังสือดังกล่าว

“ส่วนตัวไม่ได้เกรงกลัว หรือวิตกกังวลอะไร เพราะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนแต่ห่วงความไม่ปลอดภัยของลูกเมีย และคนในบ้าน จึงจำยอมเซ็นหนังสือดังกล่าว โดยไม่สมัครใจหรือเต็มใจ ถือเป็นการข่มขู่ ขืนใจ ไม่ได้ขอความร่วมมือด้วยวาจาเพียงอย่างเดียว ตามที่ พล.ท.วิจักขฐ์ กล่าวอ้าง จึงมองว่าเป็นการข่มขู่ คุกคาม มากกว่าขอความร่วมมืออย่างจริงใจ และตรงไปตรงมา ถ้าเป็นอย่างนั้น คงไม่ต้องให้เขียนหนังสือยินยอม เพื่อผูกมัดตนเอง เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร หลังเหตุการณ์ วันที่16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ไม่มีเจ้าหน้าที่มาเฝ้าสังเกตการณ์ หรือติดตามที่บ้านอย่างใด” นายจำรัส กล่าว

นายจำรัส กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ (สารวัตรแม่แฝก)ผู้ที่ให้ตนเขียนหนังสือยินยอมตามคำบอก มาพบที่บ้าน เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพูดจาอย่างสุภาพนอบน้อม ว่า จำเป็นต้องทำ เพราะเจ้านายสั่ง เพิ่งย้ายมาจาก สภ.แม่ตื่น อ.อมก๋อย เพียงเดือนเดียว จึงต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนาบังคับ ข่มขู่ ขืนใจ เพราะไม่ทราบใครเป็นใคร หลังมีข่าวออกไปตนเองถูกผู้บังคับบัญชาระดับสูง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และลงโทษได้ ทำให้มีผลกระทบต่อการรับราชการ และครอบครัว พร้อมขอร้องไม่ให้ติดใจ เอาความดังกล่าว ตนจึงตอบกลับไปว่า ก่อนทำ ทำไมไม่คิด หากเป็นคำสั่งไม่ถูกต้อง ผิดกฏหมาย ก็ไม่ควรทำ จนทำให้ตนเอง และครอบครัวเดือดร้อนทำไม

Advertisement

“หลังพูดคุย ทำความเข้าใจกัน นานกว่า 1 ชั่วโมง ตนจึงบอกให้เจ้าหน้าที่ (สารวัตรแม่แฝก) หากต้องการให้ตนไม่เอาเรื่อง ก็ให้ทำหนังสือมา ให้เซ็นหนังสือรับรอง ไม่ติดใจเอาความใด ๆ เพื่อเป็นหลักฐาน เพราะเห็นว่าเขาได้สำนึก และยอมรับผิดแล้ว ส่วนตัวเห็นใจการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว จึงยอมเซ็นหนังสือให้เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับตน และครอบครัว ไม่ต้องมาพบขอร้อง เนื่องจากไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมดังกล่าวได้ เพราะใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต และไม่เคารพต่อสิทธิเสรีภาพประชาชน” นายจำรัส กล่าว

นายจำรัส กล่าวกรณี พล.ท.วิจักขฐ์ ระบุว่า ไม่ได้ห้ามแกนนำไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่อย่านำชาวบ้านและผู้สูงอายุไปร่วมให้กำลังใจ อาจไปละเมิดอำนาจศาลว่า ส่วนตัวไปให้กำลังใจอยู่แล้ว ไม่ได้นำชาวบ้านและผู้สูงอายุไปร่วม ส่วนใครสมัครใจไปเอง เป็นสิทธิส่วนบุคคล ห้ามไม่ได้ เพราะไม่ได้บังคับ หรือชี้นำ ต่างคนต่างไปใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัว ไม่มีใครจ้าง ไปด้วยใจ ด้วยความรัก ผูกพัน และศรัทธาที่มีต่อกันซึ่งตนมองว่า ทุกวันนี้ลืมตาอ้าปากได้ เพราะโครงการจำนำข้าว 30 บาทรักษาทุกโรคเบี้ยผู้สูงอายุให้คนในครอบครัว และเรียนฟรี 15 ปี ของรัฐบาลชุดก่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image