“ไก่อู”แจง ให้เสรีสื่อทีวี ตัดสินใจไปทำข่าว ครม.ลงพื้นที่อีสานเอง ยืนยันแค่ขอความร่วมมือ-ไม่บังคับ มั่นใจทุกหน่วยงานพร้อมประชุม ครม.สัญจรโคราช
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการขอความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์หลายช่องติดตามทำสกู๊ปข่าวการลงพื้นที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ในภาคอีสาน ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 19–22 สิงหาคมนี้ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ว่า ตนขอย้ำว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน ถ้าใครสะดวกหรือยังอยากไปติดตามทำข่าวการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีแต่ละคน ก็ทำได้ตามเดิม แต่ถ้าใครติดขัดอะไรหรือไม่อยากไป ก็ไม่เป็นอะไร ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสื่อมวลชน แต่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(เอ็นบีที) และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ยังต้องไปทำข่าวการปฏิบัติภารกิจของคณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว ซึ่งการขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในเรื่องการลงพื้นที่ของ ครม.นั้น เพื่อทำให้ประชาชนได้รับรู้ว่าจังหวัดในภาคอีสานประสบปัญหาใดบ้าง รัฐบาลหรือรัฐมนตรีแต่ละคนได้เข้าไปแก้ปัญหาอย่างไร ไม่ใช่การไปยกย่องว่ารัฐมนตรีคนใดเก่งหรือฝีมือดีแค่ไหน อย่างไร และเราไม่ได้บังคับสื่อมวลชนแต่ละช่องว่าต้องทำข่าวเฉพาะด้านบวกเท่านั้น
เมื่อถามว่าหลังจากเกิดการวิจารณ์และการแสดงท่าทีขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่อเรื่องนี้ ได้มีสถานีโทรทัศน์ช่องใดแจ้งขอถอนตัวจากการไปทำข่าวดังกล่าวบ้างหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่มีสถานีโทรทัศน์ช่องใดแจ้งขอถอนตัว แต่มีเพียงผู้ประกาศข่าวคนหนึ่งของสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีที่บอกกับตนในระหว่างการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่าเนชั่นทีวีจะไม่ไปทำข่าวการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีในครั้งนี้ ซึ่งตนตอบไปว่าไม่เป็นอะไร สุดแล้วแต่การตัดสินใจของสื่อ เพราะเรื่องนี้เป็นการขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน
เมื่อถามถึงภาพรวมความพร้อมสำหรับการลงพื้นที่ของ ครม. และการจัดประชุมครม.สัญจร พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า จากข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานมาถึงนายกรัฐมนตรีนั้น ทราบว่าทุกฝ่ายมีความพร้อม และการดำเนินงานต่างๆเป็นไปตามแผนได้อย่างเรียบร้อย
เมื่อถามต่อว่าได้เตรียมการรับมือกับกรณีอาจมีกลุ่มประชาชนมาร้องเรียนหรือแสดงความคิดเห็นต่อรัฐบาลในงานนี้อย่างไร พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะไปพบกับประชาชนกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมาอยู่แล้ว แต่หากจะมีกลุ่มคนมาสร้างความวุ่นวายใดๆ ตนเชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงรับไม่ได้ และไม่ยอมให้เกิดขึ้น ในภาวะที่ประเทศของเรากำลังเดินไปข้างหน้าอยู่ขณะนี้
