เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง พร้อมทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม
นายวัฒนากล่าวว่า เนื่องจากตนได้รับหมายทั้งหมด 3 หมาย โดยหมายแรกส่งมาให้ตนวันที่ 16 สิงหาคม และให้มาพบวันที่ 17 สิงหาคม เพื่อให้การเพิ่มเติม แต่ตนขอเลื่อนมาพบพนักงานสอบสวนวันที่ 29 สิงหาคม แต่แล้วก็ยังออกหมายเรียกไปอีก ตนจึงเดินทางเข้ามาพบ แต่ไม่ประสงค์จะให้การใดๆ ทั้งสิ้นขอให้การเป็นหนังสือตามเดิม ส่วนอีกคดีเป็นหมายเรียกครั้งที่ 1 เรื่องของหมุดซึ่งออกหมายเรียกไปเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตนก็มาในวันนี้พร้อมทั้งให้การปฏิเสธ และถ้าตามกระบวนการตนสามารถยื่นหนังสือคำให้การได้ภายใน 30 วัน แต่คดีดังกล่าวมีความเร่งรัดมาตลอดซึ่งดูว่ามีความพยายามจะนำไปฝากขัง หากทำตามกระบวนการจริง ตนต้องได้รับการปล่อยตัว แต่ถ้ามีการพยายามจะเอาไปฝากขัง ก็คือการเลือกปฏิบัติ พฤติกรรมมันเจตนา หากพฤติกรรมของพนักงานสอบสวนไม่เป็นตามสิ่งที่ควรปฏิบัติตนจะดำเนินคดี อย่างไรก็ตามใครอยากจะเอาใจใครก็ทำไปแต่ไม่ควรเอาสิทธิ เสรีภาพของประชาชนมาเป็นบันไดเหยียบขึ้นในการเอายศ หรือตำแหน่ง ซึ่งเรื่องของหมุดนั้นอยู่ในระหว่างสอบสวน แต่วันนี้เรียกมาเพื่อพยายามแจ้งข้อกล่าวหาอีกมันไม่ใช่เรื่องปกติ ตามที่พล.ต.อ.ศรีวราห์บอกว่าใครก็ตามที่มีการพูดจาให้ปลุกระดมนั้น ให้ระวังปากด้วย ตนไม่ได้ปลุกระดม ตนใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ในวันนี้เรื่องที่มาคือเรื่องของหมุด ซึ่งตนก็ได้มาตามหมายเรียก
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพยายามควบคุมตัวนั้นอาจจะพยายามทำให้บ้านเมืองสงบก่อนที่จะถึงวันพิจารณาคดี น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่
นายวัฒนากล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะประชาชนก็มาตลอดปกติ เป็นการให้กำลังใจและไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิาท มันเป็นสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชน มันผิดกฎหมายตรงไหนถึงไปห้ามประชาชนไม่ให้มา เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นความพยายามของรัฐบาลที่ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว ประชาชนไม่เคยไปแทรกแซงดุลพินิจของศาล คสช.ที่ตนว่าพฤติกรรมที่กระทำอยู่ที่สร้างความกดดันให้กับศาล ทำไมต้องส่งคนไปคุ้มกันศาล ทำไมต้องห้ามประชาชนมา
ต่อมาเวลา 11.30 น. ภายหลังจากการเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนั้น นายวัฒนากล่าวว่า เวลา 13.00 น.ตนและพนักงานสอบสวนได้นัดกันที่ศาลอาญารัชดาภิเษก เพื่อนำตัวตนไปฝากขัง จากการเข้าพบพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหามาตรา 116 เพิ่มเติมในเรื่องของหมุดคณะราษฎรหลังจากที่เคยแจ้งไปแล้วว่าเป็นความผิดตามข้อหาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อว่ามีเจตนาจะฝากขังตนเพื่อไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 25 สิงหาคม นี้ อย่างไรก็ตามขบวนการที่ศาลตนก็จะขอไปใช้สิทธิ์คัดค้านการฝากขัง 1.กระบวนการสอบสวนของตนได้จบไปแล้ว 2.ไม่มีเจตนาจะหลบหนี 3.ไม่มีทางไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานอยู่แล้ว ทั้งนี้สำหรับหลักทรัพย์ในการประกันขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล
