ศูนย์ธุรกิจเพื่อสังคมวานีตา สร้างศักยภาพกลุ่มสตรี 3 จังหวัดชายแดนใต้

สถานการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่เปราะบางทางด้านสังคม การเมือง และศาสนา ซึ่งส่งผลกระทบมากมายต่อคนในพื้นที่ หนึ่งในกลุ่มนั้นคือแม่บ้านสตรีที่สูญเสียหัวหน้าครอบครัว ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นต้องปรับตัวอย่างหนักกับบทบาทที่เปลี่ยนไป จากเดิมหน้าที่แค่ดูแลความเรียบร้อยของสมาชิกในครอบครัว กลับกลายต้องมาเป็นหัวเรือใหญ่แบกรับภาระการหารายได้หลักเพื่อใช้จ่ายในบ้าน

เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ ภาวะความเป็นผู้นำ สร้างความภาคภูมิใจ รวมถึงสร้างอาชีพและรายได้ให้กับกลุ่มสตรีในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์ธุรกิจเพื่อสังคมวานีตา ที่มาจากภาษามาลายู แปลว่า “ผู้หญิง” สำนักงานอยู่ที่จังหวัดปัตตานี ขับเคลื่อนโดย OXFAM ศูนย์นี้ตั้งขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการสร้างประโยชน์ในมิติทางสังคมและการเงินให้ชุมชนไปพร้อมๆ กัน เพื่อพัฒนาทั้งคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและสภาวะแวดล้อมทางสังคมให้ดีขึ้น ด้วยเชื่อว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนคือการสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถเติบโตไปพร้อมกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมได้

อลิญา หมัดหมาน ผู้จัดการโครงการศูนย์ธุรกิจเพื่อสังคมวานีตา เล่าถึงที่มาให้ฟังว่า ศูนย์วานีตาขับเคลื่อน และเป็นเจ้าของโดยกลุ่มผู้หญิง และชุมชนที่ร่วมกันทำงานเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างยั่งยืนทั้งในมิติเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าควรมีการสร้างพื้นที่ในการสื่อสารที่สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราววิถีชีวิต วัฒนธรรม รวมถึงสินค้าที่มาจากกลุ่มอาชีพผู้หญิงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 700 คน จากกลุ่มผู้หญิง 56 กลุ่มในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา โดยมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 4 ประเภท คือ อาหาร เช่น กือโป๊ะข้าวเกรียบปลาทอดกรอบ โรตีแช่แข็งสำเร็จรูป ทุเรียนทอดกรอบ ขนมรังนก หรือปลาหวานสมุนไพร สำหรับกลุ่มเครื่องแต่งกายประกอบไปด้วย เสื้อผ้าสตรีมุสลิม ผ้าคลุมไหล่ หรือผ้าคลุมผมสตรี ด้านเครื่องจักรสาน ก็จะมีเสื่อกระจูด เสวียนหม้อ กระเช้าใส่ของขวัญ และถาดดอกไม้ สำหรับผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรมจะมีการปักดอกผ้าละหมาด กระเป๋าผ้าทอญี่ปุ่น และกระเป๋าผ้าปาเต๊ะ

กระด้งดอกพิกุล
กระเป๋าเครื่องสำอางผ้าปาเต๊ะ

“บทบาทของวานีตา มีอยู่ 4 เรื่องหลักๆ อย่างแรกก็คือเรื่องของการสร้างศักยภาพทางธุรกิจ โดยการจัดฝึกอบรมให้กับกลุ่มสมาชิกในการประกอบธุรกิจ เสริมทักษะต่างๆ ที่สำคัญ เช่น การทำบัญชี การตลาด การสื่อสารกับผู้บริโภค การพัฒนาสินค้า รวมไปถึงการหาแหล่งทุน อีกทั้งยังพัฒนาผู้นำสตรีให้มีทักษะการนำเสนอ รู้จักการต่อรอง และมีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ อย่างที่สองคือการเชื่อมต่อตลาด เนื่องจากวานีตาเป็นศูนย์ธุรกิจเพื่อสังคมที่ออกแบบเพื่อให้ธุรกิจมีความยั่งยืน มีกระบวนการคัดเลือกสินค้าที่มีเอกลักษณ์ได้มาตรฐาน และช่วยสร้างพื้นที่ต่อยอดทางการตลาดรวมไปถึงช่องทางการสื่อสารผ่านทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก เพื่อให้สินค้าของกลุ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น”

Advertisement

โรสมาลิน กิตินัย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กือโป๊ะตราดอกแก้ว จังหวัดปัตตานี เล่าว่า จากความสูญเสียลูกชายทำให้ชีวิตเหมือนเสียศูนย์ สภาพจิตใจย่ำแย่มาก พอได้มาเข้าร่วมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นแชร์ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน มีหลายคนในกลุ่มที่สูญเสียและแย่ยิ่งกว่าเรา จึงทำให้กลับมามองดูตัวเองว่าต้องเดินไปข้างหน้า โดยสร้างกำลังใจและสร้างความเข้มแข็ง

กือโป๊ะเป็นภาษามาลายู แปลว่า ข้าวเกรียบปลา

“ผลิตภัณฑ์เด่นของกลุ่มคือ สินค้ากือโป๊ะตราดอกแก้ว คำว่ากือโป๊ะเป็นภาษามาลายูที่แปลว่าข้าวเกรียบปลา เป็นอาหารภูมิปัญญาท้องถิ่นของยะลาและปัตตานี ได้เข้าไปร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำให้เป็นแท่งสแน็คจับง่ายและให้ตรงกับความต้องการของตลาด พร้อมทั้งคิดค้นรสชาติต่างๆ ให้มีความอร่อยถูกปาก นอกจากนั้นก็ได้ขยายตลาดช่องทางการจัดจำหน่าย โดยตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มได้จำหน่ายที่ทำการไปรษณีย์จำนวน 72 แห่งทั่วประเทศ และในอนาคตจะขยายเป็น 150 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีจำหน่ายในร้านของฝากทั่วไปในจังหวัดปัตตานี และในกรุงเทพฯด้วย”

 

Advertisement

 

 

 

 

 

 

 

เกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญกับงานด้านการพัฒนาควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ตามวิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market work for Everyone” โดยส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียน และผู้ลงทุน คำนึงถึงประเด็นทางสังคม สิ่งแวดล้อมและบรรษัทภิบาล และยังได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงบริษัทจดทะเบียนกับภาคสังคมผ่าน SET Social Impact Platform เพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อสังคม ซึ่งหมายถึงการนำทรัพยากรขององค์กรมาลงทุน โดยไม่ได้หวังแต่เพียงผลกำไร แต่ยังมุ่งสร้างผลลัพธ์ ทางสังคมไปควบคู่กัน ซึ่งภาคธุรกิจสามารถทำได้โดยการนำทรัพยากร ได้แก่ เงินทุน หรือความรู้ความสามารถ การให้สถานที่หรือช่องทางจำหน่ายสินค้า เป็นต้น มาสนับสนุนธุรกิจเพื่อสังคม

“นี่คือหนึ่งในกิจการเพื่อสังคมที่มีความชัดเจน ถึงวัตถุประสงค์ที่มุ่งจะมีส่วนร่วมในแก้ไขปัญหาสังคม ส่งเสริมศักยภาพให้สมาชิกกลุ่ม อย่างต่อเนื่องจนมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี มีความมั่นใจ ในการก้าวไปข้างหน้า เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน ปัจจุบันทางกลุ่ม มีแผนที่จะจดทะเบียนเป็นกิจการเพื่อสังคม ซึ่งบริษัทต่างๆ ที่มองเห็นปัญหาสังคมในเรื่องนี้และประสงค์อยากจะมีส่วนร่วมในการสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มวานีตา และสตรีทางภาคใต้ ให้สามารถพึ่งพาจนเอง ขอเชิญมาทำความรู้จักและผสานความร่วมมือ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและอาชีพ ของพี่น้องทางภาคใต้ให้ดีขึ้น”

ภายใต้ SET social Impact Platform ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังมีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับกิจการเพื่อสังคมในด้านอื่นๆ ครอบคลุมทั้งการพัฒนาชุมชน การศึกษา สิ่งแวดล้อม สุขภาพ และผู้ด้อยโอกาส บริษัทที่ต้องการเชื่อมโยงหาพันธมิตรแก้ไขปัญหาสังคม เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีทางสังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับการทำธุรกิจ สามารถเข้าไปดูข้อมูลภาคธุรกิจ และภาคสังคม ตลอดจนองค์ความรู้ต่างๆ ได้ที่ www.setsocialimpact.com หรือ FB: SET Social Impact

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image