เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “รถเมล์ไทย.คอม Rotmaethai.com” โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า เครื่องอ่านบัตร E-Ticket บนรถเมล์ ขสมก.ขึ้นมาก็แตะบัตรตอนขึ้น ซึ่งตำแหน่งที่แตะบัตร วางตำแหน่งใกล้เคียงกับเครื่องหยอดเหรียญตอนที่ประจำการเมื่อปี 2541 เลยวุ้นพอจะลงก็แตะบัตรก่อนลง ถ้าไม่แตะบัตรตอนลง บัตรก็ตัดยอดเงินค่าโดยสารสูงสุดเน่อ แถมไม่ได้เงินส่วนต่างคืนด้วย ในกรณีที่เราไม่ได้นั่งไกลๆ ยาวๆ 23 บาท อีกอย่างเครื่องอ่านบัตร ตามสเปกที่ ขสมก. กำหนด สามารถคิดค่าโดยสารแบบตลอดสาย ตามระยะทางหรือแบบเหมา เช่น รายเที่ยว รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน ตัวเครื่องอ่าน สามารถจำแนกกลุ่มผู้โดยสารที่เป็นบุคคลทั่วไป ผู้สูงอายุ เด็กนักเรียน ทหาร ตำรวจ พระ ผู้พิการ รวมไปถึงคนรายได้น้อยได้ด้วย ของแบบนี้จะรอดหรือร่วง ดูกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเครื่องอ่านบัตร E-Ticket บนรถเมล์ ขสมก.เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ลงนามสัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) กับบริษัทในฐานะผู้ชนะการประกวดราคาเพื่อเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) เพื่อติดตั้งในรถเมล์ ขสมก.จํานวน 2,600 คัน วงเงิน 1,665 ล้านบาท ระยะสัมปทานรวม 5 ปี
นายสมศักดิ์ระบุว่า การนำระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) มาใช้บนรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บค่าโดยสารและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรระบบดังกล่าวจะทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก รวดเร็วในการเดินทาง ด้วยการใช้บัตรเพียงใบเดียวสามารถใช้เชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้ทุกระบบ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าระบบซ้ำซ้อน โดยโครงการดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้นำระบบตั๋วร่วมมาใช้ และรองรับบัตรผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลัง ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 อีกทางหนึ่งด้วย
