วันที่ 25 สิงหาคม 2560 ภายหลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ภายหลังไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีทุจริตจำนำข้าวตามนัด พร้อมทั้งให้ปรับนายประกันเต็มตามสัญญา 30 ล้านบาท ชี้พฤติการณ์เชื่อว่าหลบหนี เเละให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาในเวลา 09.00 น. วันที่ 27 กันยายนนั้น
เวลา 11.50 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านกิจการพิเศษ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลตามนัดว่า เพิ่งทราบเรื่อง แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด อย่างไรก็ตาม ต้องรอกระบวนการอย่างเป็นทางการเมื่อศาลออกหมายจับและส่งหมายจับมาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจทั่วประเทศมีหน้าที่ต้องจับกุม หากพบเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายจับกุมได้ทันที
“อย่างไรก็ตาม ตามกระบวนการหลังจากนี้จะต้องตรวจสอบไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่ามีข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือไม่ ระหว่างนี้ต้องรอ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีคำสั่งที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ตอนนี้ผมยังไม่เห็นหมายจับ” พล.ต.อ.เดชณรงค์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า หากมีการหลบหนีออกนอกประเทศตามที่มีกระแสข่าวจะใช้ช่องทางทางธรรมชาติที่ไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ตรงนี้ต้องตรวจสอบ แต่เบื้องต้นต้องสอบถามไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก่อน ใช้เวลาไม่นานในการตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานข่าวระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์แล้ว พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวว่า เพิ่งทราบข้อมูลจากสื่อมวลชน ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้ว โดยกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถประสานไปยังตำรวจประเทศต่างๆ ซึ่งประเทศไทยมีเครือข่ายประสานงานกับตำรวจประเทศอาเซียนทุกประเทศ มีแนวทางปฏิบัติในการตรวจสอบอยู่แล้ว กรณีนี้หากระบุว่าไปประเทศสิงคโปร์ก็สามารถสอบถามไปยังตำรวจประเทศสิงคโปร์ได้ ใช้เวลาไม่นานในการตรวจสอบ มีระเบียบขั้นตอนปฏิบัติอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ต้องรอให้มีความชัดเจนจากผบ.ตร. จึงจะสามารถตอบได้ชัดเจนกว่านี้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปทางประเทศกัมพูชาก่อนไปประเทศสิงคโปร์ โดยมีคนเห็นที่ประเทศสิงคโปร์เวลา 21.00 น. วันที่ 23 สิงหาคม ก่อนเดินทางต่อไปยังประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อคืนวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า การเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้พา ”น้องไปป์” ศุภเสกข์ อมรฉัตร ลูกชายวัย 15 ปี เดินทางไปด้วย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ตัดสินใจออกนอกประเทศพร้อมลูก ก็เพราะเป็นห่วงว่าหากมีคำพิพากษาให้จำคุก จะทำให้ขาดคนดูแลลูกชายคนเดียว จึงตัดสินใจพาลูกชายเดินทางออกนอกประเทศไปด้วย