นายรัฐพงศ์ บุญญานุวัตร อดีตคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา(มร.สส.) เปิดเผยว่า จากที่ปัจจุบันนักเรียนได้ให้ความสนใจในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาเพิ่มมากขึ้นขณะที่มหาวิทยาลัยต่างๆได้จัดการศึกษาในสาขาวิชาที่มีความแตกต่างจากอดีตทั้งระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษาเพื่อดึงความสนใจให้นักเรียนนักศึกษาเข้าศึกษาในสถาบันให้มากที่สุด สำหรับในประเด็นการจัดการศึกษาด้วยหลักสูตรที่หลากหลายและเป็นทางเลือกของผู้เรียนนั้น ถือได้ว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่น่าชื่นชม แต่อย่างไรก็ตามการเปิดหลักสูตใหม่ของมหาวิทยาลัยที่มีความต่างจากอดีตและตอบโจทย์ตลาดแรงงานนั้น มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะสภามหาวิทยาลัยและสภาวิชาการต้องตระหนักและให้ความสำคัญในการตรวจสอบความพร้อมและคุณภา เพราะที่ผ่านมหาวิทยาลัยรัฐบางแห่งผู้บริหารได้เสนอหลักสูตรเพื่อให้สภาวิชาการและสภามหาวิทยาลัยพิจารณาให้ความเห็นชอบ แต่การดำเนินงานของมหาวิทยาลัย ไม่ค่อยลงไปดูและติดตามกำกับในรายละเอียดที่นำเสนอมากนัก ซึ่งในประเด็นนี้เคยส่งผลต่อนักศึกษาที่ประสบปัญหาและมีการฟ้องร้องเรียกสิทธิอันพึงได้ ก็มีแล้ว
นายรัฐพงศ์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้หลักสูตรที่แต่ละมหาวิทยาลัยจัดการศึกษาเป็นหลักสูตรที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ตลาดแรงงานและยุทธศาสตร์ชาติอย่างแท้จริง สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการนำเสนอข้อมูลผ่านช่องทางสื่อสารต่างๆโดยเฉพาะเว็ปไซต์เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองได้ทราบข้อเท็จจริง ประกอบกับเมื่อเร็วๆ นี้สำนักงานสถิติแห่งชาติได้เปิดเผยข้อมูลการว่างงานของบัณฑิตถึงจำนวน 2.5 แสนคน จากผู้ว่างงานทั้งหมดในเดือนกรกฎาคม 2560 จำนวน 476,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาถึง 253,000 คนและเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้วกว่า 57,000 คน ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการว่างงานของบัณฑิตซึ่งจะส่งผลต่อปัญหาแรงงานและปัญหาสังคมในอนาคต ทุกมหาวิทยาลัยจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาบัณฑิตให้มีคุณภาพและจำกัดจำนวนให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการอย่างแท้จริง
