ทิศทาง การเมือง หลัง ‘ยิ่งลักษณ์’ หายตัว 2 เส้นทาง วกวน

“ปฏิกิริยา” อันเนื่องแต่การหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำเนินไปใน 2 แนวทางอันเท่ากับเป็นเงาสะท้อนในทางการเมืองของไทย

มีทั้งที่แปลกใจ และมีทั้งที่ไม่แปลกใจ

แปลกใจในลักษณะที่ไม่ควรจะหนี ควรจะเดินหน้าสู้คดีจนถึงที่สุดให้สมกับที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ก่อนหน้านี้

จุดนี้มีทั้งจากคนที่ชัง และคนที่เคยชอบ

Advertisement

คนที่ชังน้ำหนักข้างสะใจจะเหนือกว่า ตรงกันข้าม คนที่เคยชอบ เคยฝากความหวัง ก็ออกมาในทางผิดหวัง ตัดพ้อต่อว่า

ส่วนที่ไม่แปลกใจ เพราะเข้าใจและเห็นใจ

ฝ่ายนี้จะมองเห็นกระบวนการดำเนินคดีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเป็นเรื่องในทางการเมือง และต้นธารของกระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว

Advertisement

ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สู้มาจนถึงวินาทีสุดท้ายก็ต้องถือว่า “อึด”

ขณะเดียวกัน หลังจากมีความแจ่มชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะข่าวที่เดินทางผ่านกัมพูชาไปสิงคโปร์และลงเอยที่ดูไบ

เท่ากับเป็นการเดินทางไปหา “พี่ชาย”

สถานการณ์เช่นนี้ได้นำไปสู่บทสรุปในทางการเมือง 2 บทสรุปที่มีความสัมพันธ์กัน 1 คือ เท่ากับหมดยุคของตระกูล “ชินวัตร”

อย่างเก่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะเป็นเช่นกับ นายทักษิณ ชินวัตร

นั่นก็คือ เป็นได้อย่างมากก็แค่ “ผีทักษิณ” และ “ผียิ่งลักษณ์” เท่ากับหมดโอกาสอย่างสิ้นเชิงในทางการเมือง

ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนกับที่ “โหรวารินทร์” สรุป

สภาพการณ์ทางการเมืองภายหลังยุค “โพสต์-ชินวัตร” จึงเท่ากับก่อให้เกิดการจัดระเบียบใหม่ที่มากด้วยความแหลมคม

บทสรุป 1 เห็นว่านับจากนี้ คสช.จะครองอำนาจและวางรากฐานอำนาจของตนอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงสอดรับกับยุทธศาสตร์ 20 ปี

เป็นยิ่งกว่าหลังรัฐประหารเดือนตุลาคม 2501

นั่นก็คือ การผงาดขึ้นของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และต่อเนื่องมายังจอมพลถนอม กิตติขจร จากเดือนกันยายน 2500 กระทั่งเดือนตุลาคม 2516

บทสรุป 1 เห็นว่าน่าจะมีการเมือง “ใหม่”

เป็นการเมืองที่ขบวนการประชาธิปไตยจะพัฒนาและเติบใหญ่โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้ร่มเงาของตระกูลชินวัตรอีกแล้ว

ไม่ว่าจะเป็น “ผีทักษิณ” ไม่ว่าจะเป็น “ผียิ่งลักษณ์”

พรรคเพื่อไทยก็จะต้องก้าวไปสู่มิติใหม่ นปช. คนเสื้อแดง ก็จะต้องก้าวให้พ้นไปจาก 2 ผีอันมาจากตระกูล “ชินวัตร”

น่าสนใจว่า 2 ความคิด 2 บทสรุปนี้ล้วนคิดเองเออเอง

นั่นก็คือ เป็นการคิดโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงของ คสช. นั่นก็คือ เป็นการคิดโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงของพรรคเพื่อไทยและ นปช. คนเสื้อแดง

ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปใน 2 แนวทางนี้ เพราะในความเป็นจริง การเมืองอันเป็นวิทยาศาสตร์สังคมดำเนินไปอย่างนอกเหนือการควบคุม

ไม่ได้เป็นอย่าง “เขา” ไม่ได้เป็นอย่าง “เรา”

เพราะว่า คสช.ก็มีจุดแข็งและมีจุดอ่อนอันดำรงอยู่ เพราะว่าพรรคเพื่อไทยและ นปช. คนเสื้อแดงก็มีจุดแข็งและมีจุดอ่อนอันดำรงอยู่

จำเป็นต้องรอเวลาที่การเมืองปัจจุบันคลี่คลายไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image