อธิบดีราชทัณฑ์แจง ‘สนธิ ลิ้ม’ ไม่ได้สอนหนังสือในคุก ประเด็นชรา-ตาซ้ายกำลังบอด ไม่เข้าเกณฑ์พักโทษ

(แฟ้มภาพ)

จากรณีเฟชบุ๊ก นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภาและกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol โดยได้โพสต์ข้อความระบุถึงอาการป่วยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวนายสนธิ ลิ้มทองกุล มีอาการป่วยตาซ้ายกำลังบอดสนิท ว่าอาการตาซ้ายมองไม่เห็นของนายสนธินั้นเป็นมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในเรือนจำ ซึ่งเกิดจากการที่นายสนธิถูกลอบยิง ไม่ใช่อาการป่วย โดยนายสนธิเคยบอกว่าตามองไม่ค่อยเห็นเท่านั้น ซึ่งการดูแลของเรือนจำคือเมื่อนายสนธิมีอาการกำเริบก็จะถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เป็นแพทย์ประจำตัวของนายสนธิคอยให้การรักษาอยู่ตลอด และเป็นแพทย์ที่นายสนธิรักษามาตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในเรือนจำ

นายกอบเกียรติกล่าวต่อว่า ตนได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ว่าในเดือน ส.ค.นี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายสนธิส่งไปรักษาอาการดังกล่าว ที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว 3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายสนธิถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำนั้น ยังสามารถเดินไปมาและอ่านหนังสือได้ รวมถึงการออกกำลังกายด้วย ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า นายสนธิต้องทำหน้าที่สอนหนังสือเพื่อนผู้ต้องขังนั้น ยืนยันว่าทางเรือนจำไม่ได้ให้นายสนธิสอนหนังสือแต่อย่างใด และเนื่องจากนายสนธิมีอายุมากแล้ว จึงถูกส่งไปอยู่แดน 7 ของเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งจัดไว้สำหรับคุมผู้ต้องขังชราและนายสนธิก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ โดยปฏิบัติตัวเหมือนผู้ต้องขังชราทั่วไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นายสนธิมีอาการเจ็บป่วย ตามองไม่เห็น สามารถร้องขอให้พักการลงโทษได้หรือไม่ นายกอบเกียรติกล่าวว่า นายสนธิยังไม่เข้าหลักเกณฑ์การพักการลงโทษ อีกทั้งหลักเกณฑ์การพักการลงโทษก็กำหนดไว้ชัดเจน ว่าผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติพักการลงโทษจะต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 เมื่อผ่านคุณสมบัตินี้แล้ว จึงจะพิจารณาประเด็นการเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ ส่วนประเด็นอาการป่วยหรือพิการนั้น ตามหลักเกณฑ์ระบุไว้ชัดเจนว่าหากเป็นผู้พิการจะต้องไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น หากตาบอดก็ต้องตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง แขนขาด 2 ข้าง หรือขาขาด 2 ข้าง รวมถึงอาการป่วยก็จะต้องโรคที่ร้ายแรงอยู่ในระยะสุดท้าย เช่น ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ดังนั้นกรณีของนายสนธิจึงยังไม่เข้าเกณฑ์ขอพักการลงโทษ ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรือนจำทุกแห่งดูแลผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน หากมีอาการป่วยก็จะดูแลเหมือนกันหมด

Advertisement

รายงานช่าวแจ้งว่า นายสนธิได้รักษาอาการตาซ้าย ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเดินทางไปตรวจอาการประจำเดือนละ 1 ครั้ง เป็นการรักษาแบบเดินทางไปกลับ ไม่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งนี้ ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม ได้ขออนุญาตทางกรมราชทัณฑ์สอนหนังสือกับผู้ต้องขังในเรือนจำ แต่ทางกรมราชทัณฑ์เกรงว่าจะเกิดปัญหา เพราะในเรือนจำมีทั้งกลุ่มคนที่ชอบและไม่ชอบนายสนธิ จึงไม่ได้อนุญาตให้นายสนธิเป็นครูพิเศษในเรือนจำ แต่นายสนธิก็อ่านหนังสือในห้องสมุดเรือนจำเป็นส่วนใหญ่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image