หลังจากที่ถูกเพจดังออกมาแฉว่าโกงเงินค่าตกแต่งร้านชาบู รวมไปถึงเจ้าของที่เช่าร้านก็แจ้งความว่าถูกเบี้ยวค่าเช่า สำหรับ หน่อย อุ่นเรือน ราโชติ หรือลำดวน จากซิทคอม บางรักซอย 9 ล่าสุดเจ้าตัวขอเปิดใจผ่านรายการ คุยเช้าShow ว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเจ้าของได้ล็อกตึกไว้ ก่อนจะเล่าย้อนไปว่า ตนขนของออกเพื่อที่จะปรับปรุงร้าน แต่เมื่อเจ้าของตึกมาเห็นตนย้ายของจึงเข้าใจว่าจะหนี
“ซึ่งจริงๆ เรามีสัญญาอยู่คือภายใน 1 ปีนั้น พี่สามารถที่จะปรับปรุงร้านตกแต่งร้านได้เพราะว่าเราบอกแล้วว่าเป็นร้านอาหาร ซึ่งในสัญญาเขายินยอมให้เราปรับปรุง”
ซึ่งตนยอมรับว่าตอนย้ายของนั้นไม่ได้แจ้งเจ้าของตึกไว้ก่อน เพียงแจ้งว่าตึกนี้ต้องซ่อมเพราะรั่ว แต่อีกฝ่ายต้องการแต่ค่าเช่า จากนั้นตนจึงเจรจากับเจ้าของตึกว่าให้ช่างมาตีราคาซึ่งอีกฝ่ายตกลง ตนจึงดำเนินการซ่อมแซม ซึ่งระหว่างรอดำเนินจากช่างก็มีการขัดแย้งกันเพราะอีกฝ่ายต้องการค่าเช่า แต่ตนยังไม่สามารถให้ได้เนื่องจากรอช่างตีราคา เพราะตนต้องการหักเงินค่าเช่ามาซ่อมแซม
ขอชี้แจงว่าเงินค่าเช่าที่บอกว่าตนไม่ได้จ่าย แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ในสัญญาที่จะนำมาเพื่อปรับปรุงอาคาร
“เขาจะเอาค่าเช่าเราก็ไม่ได้โอน แล้วพอตอนเช้าเราก็ย้ายของออก เพราะว่าของมันต้องย้าย เพราะว่าน้ำมันรั่วมาก มีอีกส่วนไหลผ่านหลอดไฟลงมา ไหลมาจนถึงชั้นล่าง ลูกค้านั่งเอาเท้าแช่น้ำ แล้วกินชาบูแล้วถ้าเกิดไฟดูดลูกค้าและพนักงานในร้านตาย ใครจะรับผิดชอบ”
และอีกส่วนหนึ่งในเรื่องของค่าตกแต่งที่ตนยอมรับว่ายังไม่ได้จ่าย ซึ่งแยกออกมาจากกรณีแรก
“คนละเรื่องกับค่าเช่าแต่ว่ามันต่อเนื่องกัน ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้แล้วในตึก เพราะว่าเขาล็อก”
ซึ่งที่ตนตั้งใจปรับปรุงตึกเพราะมีความตั้งใจจะซื้อต่อ ซึ่งเมื่อช่างตีราคาซ่อมแซมที่ 90,000 ตนก็ตกลงจ่าย จนเหลือ 9,000 กว่าบาทที่ยังไม่ได้จ่าย ซึ่งจะต้องจ่ายในวันที่ช่างซ่อมแซมตึกเสร็จคือวันที่ 6 กรกฎาคม แต่เกิดปัญหาที่ว่าระยะในการซ่อมแซมไม่เป็นตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งตนไม่ว่าอะไร
“ส่วนที่เป็นหนี้เราก็รู้ว่าเป็นหนี้ เราก็ไม่หนี เราก็ยอมรับ”
และนอกจากเรื่องค้างค่าเช่า ยังมีปัญหาจ่ายค่าแรงช่างไม่ครบนั้นเธอก็ขอชี้แจงว่า
“ตอนทำงานพี่ไม่ได้อยู่หน้างาน ซึ่งช่างก็เพิ่มเติมการทาสีฝ้า สีผนัง ทาห้องครัว เทปูน ทาสีหน้าบ้าน ฯลฯ ซึ่งเพิ่มจากจำนวนเงินเหลือ 9,000 มาเป็น 30,000 กว่าบาท ”
ซึ่งในวันที่มีการตกลงเรื่องราคาก็ได้คุยกันทำความเข้าใจกันแล้ว ตนจึงเข้าใจว่าช่างตีราคาไว้ในเงินก้อนแรกหมดแล้ว แต่ทั้งหมดเป็นเพียงการคุยโดยไม่มีลายลักษณ์อักษร
และกับเงินที่ค้างทั้งเจ้าของตึกและช่างที่ไม่ได้จ่ายทั้งที่ตนก็มีบ้านให้เช่าอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น เพราะบ้านหลังดังกล่าวเก่าแก่และทรุดโทรม และผู้เช่าบางรายก็มาขอผลัดผ่อนและขอค้างชำระ และเงินส่วนนี้ตนต้องเอาไว้สำหรับใช้จ่ายในครอบครัว
ซึ่งสำหรับตนยอมรับว่าค่าจ้างของช่างที่บานปลายมาคือสิ่งที่ตนค้างคาใจในบางข้อ
“เราเข้าใจว่าเขาทำไปแล้ว เราก็คนทำงานเนอะ เรายอมจ่าย แต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้นะเพราะไม่มีเงิน เราก็บอกว่าพี่คิดมาแล้วกัน แต่ว่าที่จ่ายไปแล้วบางอย่างพี่ก็ไม่หักลบให้หนู ก็ยังบวกทั้งที่ได้เงิน เราก็ยอมจ่าย”
โดยก่อนหน้านี้ตนไม่ได้ปรึกษาทนายเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ตอนนี้ยอมรับว่าต้องคิดไว้บ้าง แต่หากอีกฝ่ายปรึกษาทนายบ้างตนคงปล่อยให้ทุกไปตามกฏหมาย
“เขาจะแจ้งอะไรก็แล้วแต่เขา มันเป็นส่วนของเราที่เขาทำได้”
พร้อมทั้งยืนยันว่า
“โอ้ยไม่หนี ไม่ได้หนีไปไหนไม่ได้หนีเลย”
ก่อนจะบอกว่ารู้สึกเสียใจที่มีคนกล่าวว่าตนเป็นคนขี้โกง
“เสียใจมากนะ เพราะว่าเราเป็นคนไม่ทำใคร เราไม่อะไรกับใครอยู่แล้ว สัญญากับเรา 10 วัน แต่ว่าทำเกิน 6 วัน เราปรับได้แต่ว่าเราก็ให้อภัยพี่ พี่คิดไรเราก็รับ พี่ทำเราก็จ่าย เราไม่ได้หนี เรามีเงินแค่นี้ เราไม่คิดหนี หนีไปไหน ไม่มีเจตนาหนี”
“พอนักข่าวโทรมาเราก็ร้องไห้ ทำไมเขาให้ข่าวแบบนี้”
ฟังเรื่องราวของเธอทั้งหมดได้ที่นี่
ขอบคุณรายการ คุยเช้าโชว์