ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | บางกอกเกี้ยน |
เผยแพร่ |
เมื่อสัปดาห์ก่อนว่าด้วยเรื่องการศึกษาทั้งของไทยและของฟินแลนด์ เรื่องหนึ่งคือเรื่องการศึกษาของเด็ก จาก “ไลน์” หนึ่ง จริงเท็จไม่รู้ ที่รู้คือเป็นเรื่องน่าสนใจอ้างจากจดหมายผู้บริหารโรงเรียนแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ถึงผู้ปกครองของนักเรียนก่อนสอบ เป็นคำแนะนำและเตือนสติพ่อแม่ได้อย่างยอดเยี่ยม
“ไลน์” ขึ้นต้นว่า อยากให้พ่อแม่ทุกคนได้อ่าน ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ขอเพิ่มเติมว่า น้องหนูจำเป็นต้องอ่านเหมือนกัน
เนื้อหาที่เขียนมาเป็นภาษาอังกฤษ มีคำแปลกำกับแต่ละย่อหน้า ขอนำเฉพาะคำแปลมาเสนอดังนี้
เรียนท่านผู้ปกครองทั้งหลาย
ช่วงเวลาแห่งการสอบของเด็กๆ ใกล้เข้ามาแล้ว เรารู้ว่าพวกท่านคงรู้สึกวิตกกังวล อยากให้เด็กๆ ของท่านทำได้ดีในการสอบ
แต่โปรดอย่าลืมว่า ในบรรดาเด็กนักเรียนทั้งหลายที่ต้องมานั่งทำข้อสอบเหล่านี้ อาจมีว่าที่ศิลปิน ผู้ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าใจลึกซึ้งในวิชาคณิตศาสตร์
อาจจะมีว่าที่เจ้าของธุรกิจส่วนตัว ผู้ซึ่งไม่จำเป็นต้องสนใจในวิชาประวัติศาสตร์ หรือวรรณกรรมภาษาอังกฤษ
อาจมีว่าที่นักดนตรีซึ่งผลคะแนนในวิชาเคมีไม่ได้มีความสำคัญกับเขา
อาจจะมีว่าที่นักกีฬา ผู้ซึ่งความแข็งแกร่งของร่างกายสำคัญกว่าทฤษฎีกายภาพ
ถ้าบุตรหลานของท่านทำคะแนนสอบได้ดี นั่นก็ยอดเยี่ยมมาก แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ได้โปรดอย่าพรากความมั่นใจในตนเองของพวกเขา
โปรดบอกพวกเขาว่า ไม่เป็นไร มันก็แค่การสอบครั้งหนึ่ง พวกเขายังมีสิ่งอื่นที่ยิ่งใหญ่กว่าอีกมากมายในชีวิต
บอกพวกเขา ไม่ว่าคะแนนสอบจะออกมาเป็นเช่นไร คุณจะรักเขาและไม่ตัดสินใดๆ
โปรดทำเช่นนั้น และคอยเฝ้าดูพวกเขาประสบความสำเร็จในเส้นทางของเขาบนโลกใบนี้ การสอบเพียงหนึ่งครั้ง หรือผลคะแนนที่ต่ำจะต้องไม่ทำลายความฝันและพรสวรรค์ของพวกเขา
และโปรดอย่าคิดว่า หมอกับวิศวกรเท่านั้นคือคนที่มีความสุขบนโลกใบนี้
ด้วยความนับถือ
ผู้อำนวยการ
บอกกล่าวตั้งแต่ต้นแล้วว่า ไม่ว่าจดหมายฉบับนี้จะจริงเท็จอย่างไร แต่แนวทางความคิดและข้อเสนอแนะถูกใจข้าพเจ้า (ผู้เขียน) มาก ด้วยเหตุที่เชื่อมาตั้งแต่เริ่มเติบโตและยอมรับตัวเองว่าพ้นจากชีวิตเด็กเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ อยากเห็นเด็กเป็นเด็ก มีเวลาของความเป็นเด็กเท่าที่อายุจะอนุญาต
ยิ่งเป็นการเรียนด้วยแล้ว ไม่ใช่มีเฉพาะการเรียนในห้องเรียนเท่านั้น นอกห้องเรียนยังเป็นแหล่งเรียนรู้อีกมาก ที่สำคัญ เด็กแต่ละคน แต่ละวัย ย่อมมีจินตนาการเป็นของตัวเอง เมื่อยังเป็นเด็กเล็กอยู่ แม้ยังบอกไม่ได้ว่า โตขึ้นจะเป็นอะไร ทั้งคำตอบย่อมเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อม
พ่อเป็นทหาร-ตำรวจ ก็อยากเป็นมั่ง พี่ชายเป็นกระเป๋ารถเมล์ ก็พร้อมจะเลียนแบบ คุณลุงคุณน้าเล่นดนตรีอยากเป็นนักดนตรีด้วย สารพัดสารพันที่อยากเป็น ปรับเปลี่ยนไปตามวัย
ในที่สุด หากเด็กเติบโตด้วยจินตนาการและความรู้ของตัวเอง มีพ่อแม่คอยชี้แนะให้คำปรึกษา ความต้องการนั้นจะแสดงออกมาเองเมื่อเติบโตถึงอายุวัยหนึ่งที่ตัดสินใจเองได้
การที่เด็กเติบโตจากจินตนาการและมุ่งมั่นให้เป็นไปตามจินตนาการที่ปรับเปลี่ยนมาหลายครั้งหลายหน ในที่สุดเขาจะหาสิ่งที่ปรารถนาและต้องการได้เอง
ประการสำคัญ คือ ความสุขที่ลูกหลานจะได้รับด้วยการเลือกของเขาเอง ดีที่สุด ขอรับรอง