เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 กันยายน 2560 พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกำลังและเจ้าหน้าที่เดินทางไปบ้านนายธัญบูรณ์ จงถาวรพาณิชย์ อายุ 70 ปี และนางอุทัย เซี่ยงจ๊ง อายุ 62 ปี สองสามี-ภรรยา เพื่อสอบปากคำ พร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหารอยนิ้วมือของคนร้าย ภายหลังจากเวลาประมาณ 05.30 น.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปภายในบ้านหลังดังกล่าวแล้วจับสองสามี-ภรรยามัดมือมัดเท้าและใช้กระดาษกาวปิดปากเอาไว้ พร้อมกับทำร้ายร่างกาย และยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าจำนวน 1 นัด ก่อนกวาดเอาตู้เซฟซึ่งภายในมีเงินสด รวมทั้งทรัพย์สินมีค่าไปกว่า 1 ล้านบาท
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียวติดกัน 3 ห้อง เปิดเป็นร้านขายน้ำและเครื่องดื่ม รวมทั้งของชำนานาชนิด ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนบ้านวังใหญ่ จากการตรวจสอบ พบว่าคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นตู้เซฟ 1 ตู้ เงินภายในตู้เซฟ 500,000 บาท ทองรูปพรรณ 24 บาท และแหวนเพชร 5 วง สร้อยคอเพชร 1 เส้น และมีแหวนทองอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเอกสารสิทธิที่ดิน นอกจากนี้ยังได้นำปืนลูกซองยาว อีก 1 กระบอกไปด้วย พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้นชายคาหน้าบ้าน 1 ปลอก และพบที่หลังคาห้องครัวหลังบ้านมีรอยกระสุนยิง 1 รู โดยพบร่องรอยของคนร้ายทั้ง 4 คนมาซุ่มอยู่ที่ชายป่าข้างบริเวณประตูหลังบ้าน และพบรอยล้อรถกระบะจอดอยู่ในซอยติดกับเหมืองพลอยร้าง ก่อนลงมือบุกปล้นเอาทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป
โดยนางอุทัย เซี่ยงจ๊ง เล่าว่า หลังจากตื่นนอนในช่วงเวลาประมาณ 05.30 น. ได้เปิดหลังบ้านเพื่อทำกับข้าวรอไปทำบุญตักบาตรที่ทำเป็นประจำทุกวัน โดยคนร้าย 4 คนใส่หมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ได้เดินจากป่าหลังบ้านจู่โจมมาที่ตนและได้ทุบตีบังคับให้อยู่นิ่งๆ ต่อจากนั้นก็ให้นอนก้มหน้า และคนร้ายได้ใช้ผ้าเทปมัดปิดปากเพื่อไม่ให้ร้อง ส่วนสามีได้ยินเสียงก็จะวิ่งออกจากบ้านโดยคว้าชะแลงออกมา จึงถูกกลุ่มคนร้ายเข้าทำการทุบตีและลากออกไปนอนอยู่ในดงมะเขือหลังบ้าน จากนั้น 1 ในคนร้ายได้ถือปืนสั้นคอยคุมเชิงไว้ หลังจากนั้น 3 คนร้ายเข้ารื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน โดยรื้อที่ห้องนอน 2 ห้อง ซึ่งห้องนอนของตนกับสามีได้เงินสดไปส่วนหนึ่ง ส่วนห้องนอนของลูกชายได้ขนตู้เซฟไป และหยิบเงินสดและบุหรี่จำนวนหนึ่งที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะเก็บเงินไปด้วย โดยใช้เวลารื้อค้นประมาณ 20 นาที จากนั้นได้ยกตู้เซฟออกทางประตูหลังบ้านและยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัดก่อนหลบหนีไป ซึ่งคนร้ายได้ทรัพย์ที่ตนกับสามีเก็บเอาไว้มาตลอดชีวิตไปมากกว่า 1 ล้านบาท ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายพร้อมกับนำทรัพย์สินคืนมาให้ได้โดยเร็ว ขณะเกิดเหตุนั้นอยู่บ้านเพียงลำพังกับสามีสองคน ส่วนลูกชายซึ่งเป็นข้าราชการไปปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรที่สำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 4
ด้านนายธัญบูรณ์ จงถาวรพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำหรับลักษณะของคนร้ายทั้ง 4 คน มีรูปร่างผอมคล้ายกับคนติดยา และทุกคนมีอายุระหว่าง 30-35 ปี การแต่งกายนุ่งกางเกงขายาว 3 คน ขาสั้น 1 คน และสวมหมวกไอ้โม่งจำนวน 3 คน ไม่สวม 1 คน แต่ไม่สามารถจำใบหน้าได้เนื่องจากยังเป็นช่วงเช้ามืด และฟังจากสำเนียงการพูด เชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่อย่างแน่นอน
ทางด้าน พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยภายหลังจากตรวจสอบพื้นที่ว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสภาพพื้นที่จุดเกิดเหตุอย่างละเอียด รวมทั้งสอบปากคำของผู้เสียหายถึงพฤติกรรมของคนร้าย หลังจากทราบข้อมูลเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะได้ประชุมหารือเพื่อติดตามกลุ่มบุคคลต้องสงสัยมาสอบสวน แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ก่อเหตุนั้นเป็นคนในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ ซึ่งขอให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานให้เป็นที่แน่ชัดเสียก่อน
