นายซอ ฮเต โฆษกรัฐบาลพม่าระบุว่า นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศพม่า ยกเลิกแผนการที่จะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ หรือยูเอ็นจีเอ ครั้งที่ 72 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในกลางเดือนกันยายนนี้ ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยไม่มีการให้เหตุผลหรือรายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทั้งนี้พม่าต้องเจอกับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากปัญหาชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันรัฐบาลพม่าออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีความพยายามที่จะทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจาตามที่นายไซอิด ราเอด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ วิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด พร้อมกับย้ำจุดยืนว่ารัฐบาลพม่าจะไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อการกระทำที่ชั่วร้ายที่เกิดขึ้น
ล่าสุดยูเอ็นประเมินว่ามีชาวโรฮีนจาหนีภัยความรุนแรงครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เข้าไปยังบังกลาเทศแล้วถึง 370,000 คน ขณะที่ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซีมีกำหนดจะหารือกันในประเด็นดังกล่าวในวันที่ 13 กันยายนนี้ ตามเวลาท้องถิ่นที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้เกิดการประท้วงในประเทศมุสลิมหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย และอิหร่าน ต่อกรณีการปฏิบัติต่อชาวโรฮีนจาของทางการพม่า ก่อนหน้าที่ยูเอ็นเอสซีจะมีการประชุมลับในกรณีสถานการณ์ความรุนแรงต่อชาวโรฮีนจาในพม่าด้วย
ด้านสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่ามีชาวโรฮีนจาจำนวนหนึ่งที่เหยียบกับระเบิดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะกำลังหลบหนีออกจากพม่าเข้ามายังบังกลาเทศ หลังจากที่ทางการบังกลาเทศกล่าวหาพม่าว่าได้วางทุ่นระเบิดบริเวณแนวชายแดนเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ชาวโรฮีนจาเดินทางกลับเข้าไปในพม่าอีกครั้ง ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัฐบาลพม่าปฏิเสธว่าไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศได้ร้องขอให้ทางการพม่ารับชาวโรฮีนจาเรือนแสนที่หลบหนีออกจากพม่ามายังบังกลาเทศกลับประเทศพม่า เนื่องจากบังกลาเทศต้องรองรับชาวโรฮีนจาที่หนีภัยสู้รบในพม่าเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว อีกทั้งพม่าไม่ควรปฏิเสธพลเมืองของตนเอง โดยบังกลาเทศจะให้ที่พักพิงกับชาวโรฮีนจาเหล่านี้จนกว่าพม่าจะรับพวกเขากลับไป พร้อมกับกล่าวหาทหารพม่าว่ามีบทบาทในการใช้ความรุนแรง และว่ารัฐบาลพม่าควรจะหาทางจัดการกับปัญหานี้ด้วยความอดทน
