บิ๊กเต่า เรียกพบผู้ประกอบการ “ยาหอม” ให้ปรับสูตรตาม”กฏหมายไซเตส”

เมื่อวันที่ 13 กันยายน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณียาหอมชื่อดังยี่ห้อหนึ่งของไทย ที่ไม่สามารถนำเข้าสู่ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ เนื่องจากมีส่วนผสมที่เป็นไม้กฤษฎา และสมุนไพรจีน โกฐกระดูก หรือ มู่เชียง ซึ่งเป็นพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส ว่า เบื้องต้นต้องเรียกผู้ประกอบการเข้าพูดคุยถึงส่วนประกอบของยาหอมดังกล่าวว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยังไม่อยากฟันธงว่าผู้ประกอบการผิด แต่หากพบมีพืชป่าในบัญชีไซเตสผสมอยู่จริง คงต้องพูดคุยให้มีการปรับปรุงส่วนผสม เนื่องจากเป็นข้อห้าม หรืออีกหนึ่งวิธีคือผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการขอใบอนุญาตนำออกจากประเทศไทยจากกรมวิชาการเกษตร เพื่อให้ประเทศปลายทางอนุญาตให้เข้าประเทศได้อย่างถูกต้องตามระเบียบไซเตส

ด้านน.ส.ดวงเดือน ศรีโพทา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยอนุสัญญาไซเตสด้านพืช กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ยาหอมยี่ห้อดังกล่าวมียาสมุนไพรและยาจีน เป็นส่วนผสมของพืชต้องห้ามรวมอยู่ด้วย 2 ชนิด คือ โกฐกระดูก หรือ มู่เชียง ซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน และเป็นพืชอนุรักษ์ตามบัญชีแนบท้าย 1 ของอนุสัญญาไซเตส ห้ามซื้อขายโดยเด็ดขาด แต่หากจะมีการเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ หรือนำเข้าไปในต่างประเทศที่เป็นภาคีสมาชิกไซเตส จะต้องขอใบอนุญาตส่งออกจากกรมวิชาการเกษตรก่อน เพื่อประเทศปลายทางจะอนุญาตให้นำเข้าประเทศได้ ไม่ว่าจะมีปริมาณเท่าใดก็ตาม ดังนั้นผู้ประกอบการยาหอมยี่ห้อดังจะต้องมาขออนุญาตตามระเบียบของอนุสัญญาไซเตสก่อน

รากโกฐกระดูก

Advertisement

“ส่วนกรณีไม้กฤษณา ที่ก่อนหน้านี้ มีความเข้าใจผิดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ยาหอมยี่ห้อดังถูกห้ามเข้าประเทศเนเธอร์แลนด์นั้น ไม่ได้ถูกควบคุมโดยบัญชีไซเตสแล้ว แม้จะถูกขึ้นทะเบียนเป็นพืชอนุรักษ์บัญชี 2 แต่ปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรได้ยกเว้นให้นำเข้าและส่งออกได้” น.ส.ดวงเดือน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โกฐกระดูก หรือ มู่เชียง อยู่ในบัญชีแนบท้ายที่ 1 เป็นชนิดพันธุ์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ห้ามทำการค้าโดยเด็ดขาดโดยเฉพาะที่เก็บมาจากป่า ยกเว้น เพื่อการศึกษาวิจัย หรือได้มาจากการเพาะพันธุ์ หรือ ขยายพันธุ์เทียม เท่านั้น การค้าระหว่างประเทศจะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศที่จะนำเข้าเสียก่อน ประเทศส่งออกจึงจะออกใบอนุญาตส่งออกได้ ทั้งนี้ต้องคำนึงความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้น ๆ ด้วย
สำหรับไม้กฤษณา อยู่ในบัญชีแนบท้ายที่ 2 ของอนุสัญญาไซเตส คือ เป็นชนิดพันธุ์ที่ยังไม่ถึงกับใกล้จะสูญพันธุ์แต่มีแนวโน้มใกล้จะสูญพันธุ์ จึงยังอนุญาตให้ค้าขายได้ แต่จะต้องมีการควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายหรือไม่ทำให้จำนวนประชากรในธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็วจนใกล้สูญพันธุ์ ทั้งนี้ ประเทศที่จะส่งออกจะต้องควบคุมไม่ให้กระทบกระเทือนต่อการดำรงอยู่ของชนิดพันธุ์นั้นๆ ในธรรมชาติด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image