สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ เสด็จฯ ยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร 18 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ(พช.) พระนคร พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่าที่ประชุมได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 เกือบ100% ภายใต้ชื่อ นิทรรศการพระผู้ทรงเป็นนิรันดร์ ซึ่งจัดขึ้นบริเวณภายในอาคารพระที่นั่งทรงธรรม แบ่งเป็น 5 โซน ดังนี้ โซนที่ 1 เมื่อเสด็จอวตาร โซนที่ 2 รัชกาลที่ร่มเย็น โซนที่ 3 เพ็ญพระราชธรรม โซนที่ 4 นำพระราชไมตรี และโซนที่ 5 พระจักรีนิวัตฟ้าตรี โดยแบ่งผู้เข้าชม เป็น 4 กลุ่มคือ ประชาชนทั่วไป ผู้พิการ นักท่องเที่ยวและพระสงฆ์ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2560 ตั้งแต่ 7.00 – 21.00 น. ของทุกวัน โดยจะจัดรถรับส่งตลอด 4 มุมเมือง รวมถึงมีอาสาสมัครคอยให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเข้าชมยังไม่ได้กำหนดว่าจะเปิดให้ชมอย่างอิสระ หรือให้เข้าชมอย่างจำกัดเวลา ซึ่งแต่ละแนวทาง ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน และต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อให้ทุกคนต้องได้เข้าชมอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ปรับการจัดแสดงมหรสพ โดยให้มีการจัดแสดงโขน และวงปี่พาทย์ อย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของภายในมณฑลพิธี และบริเวณด้านนอกมณฑลพิธี ขณะเดียวกันพื้นที่อื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร และอีก 76 จังหวัดทั่วประเทศยังมีการจัดสร้างพระเมรุมาศจำลอง ทั้งในส่วนของกรุงเทพฯมีการจัดสร้างทั้งหมด 9 จุด และทุกจุดจะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มีโอกาสเข้ามาร่วมในพระราชพิธี มีโอกาสถวายความอาลัยอย่างใกล้ชิด

“ในส่วนความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบพระเมรุมาศ ดำเนินการเสร็จแล้วมากกว่า 90 % ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ 100% ภายในวันที่ 30 กันยายน แน่นอน ในการนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จฯ ไปทรงยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ ในวันที่ 18 ตุลาคม เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป นอกจากนี้ในส่วนของการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถราชยาน ดำเนินการเสร็จแล้ว 100% โดยกรมศิลปากร ได้เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในการทำพิธีบวงสรวงราชรถราชยานในวันที่ 21 กันยายน” พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว

Advertisement

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวว่า การจัดนิทรรศการครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมวันละ 1 แสนคน ซึ่ง ทางวธ.ได้เตรียมจัดทำเอกสารนำชมไว้จำนวน 3 ล้านฉบับ ส่วนผู้พิการตา จะมีอาคารพิเศษจำลองพระเมรุมาศให้สามารถสัมผัสได้ และจัดทำแผ่นซีดีแผ่นเสียงอธิบายการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ ซึ่งผู้พิการทางสายตา สามารถนำกลับไปฟังเพื่อศึกษาและเรียนรู้ต่อไป

Advertisement

พล.ต.ธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 กล่าวว่าในส่วนของกองทัพภาค 1 จะรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยและการอำนวยสะดวกให้กับประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการ โดยการดำเนินการจะจำลองรูปแบบการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ของกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กรอ.รส.) ทางเข้าออกจะมี 3 จุด คือ บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม กองบัญชาการรักษาดินแดน(รด.) และท่าช้าง รวมถึงมีทีมแพทย์ พยาบาล รถพยาบาล และพยาบาลเดินเท้าอำนวยความสะดวก ทั้งด้านนอกและด้านในนิทรรศการ


นางยุนีย์ ธีระนันท์ นายช่างศิลปกรรมอาวุโส สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้าการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถ ราชยานในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า ภาพรวมการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถราชยานคืบหน้าเกือบ 100% โดยในส่วนของพระมหาพิชัยราชรถ ดำเนินการเสร็จแล้วกว่า 95% มีการรื้อนั่งร้านออกและติดตั้งผ้าม่านบุษบกลายทองแผ่ลวดทั้ง 4 ด้านเรียบร้อยแล้ว เหลือขั้นตอนเก็บรายละเอียดซ่อมทองบางส่วน และปิดทองลายฉลุดอกไม้ร่วง ตรงส่วนแม่แคร่ด้านหน้าและด้านท้าย ส่วนราชรถปืนใหญ่ ดำเนินการปิดทองประดับกระจกลวดลายส่วนประกอบทางศิลปกรรม ทั้งราชรถส่วนหน้าและส่วนหลัง ประกอบด้วย บัวฐานสิงห์ แม่แคร่ชั้นบน แม่แคร่ชั้นล่าง แม่แปรกลวงประดับแม่แคร่ ลายประจำยามประดับส่วนตัวถัง ลายกระจังประดับกำส่วนซี่ล้อ กงวงล้อ เสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะที่เร็วๆ นี้จะอัญเชิญพระที่นั่งราเชนทรยาน และพระราเชนทรยานน้อย ซึ่งบูรณะอยู่ที่สำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม มาเตรียมความพร้อม โดยการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถราชยานทุกองค์จะต้องเสร็จเรียบร้อย ก่อนวันที่ 21 กันยายน ซึ่งจะมีพิธีบวงสรวง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image