เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 กันยายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดลาดเก่าหรือวัดล้านขวด ต.ดู่ลาด อ.ทรายมูล จ.ยโสธร หลังทราบว่าวัดแห่งนี้ได้นำเอาขวดสุรา ขวดเบียร์และขวดเครื่องดื่มชูกำลังไปก่อสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอระฆัง เมรุเผาศพ และกุฏิทั้งหลังเป็นที่แปลกตาของผู้พบเห็น เมื่อไปถึงพบพระอธิการสมพงษ์ กิตติชโย อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัดลาดเก่าหรือวัดล้านขวด กำลังอยู่บนนั่งร้านเพื่อนำขวดแก้วขึ้นติดลงบนผนังศาลาการเปรียญหลังใหม่
พระอธิการสมพงษ์ เปิดเผยว่า วัดล้านขวดที่ จ.ยโสธร เริ่มทำมาเนื่องจากเป็นปริศนาธรรมว่าขวดเหล้าขวดเบียร์ที่กินแล้วก็โยนทิ้งแต่หากนำมาขัดเกลามาล้างก็จะมีคุณค่า ก็เหมือนกับคนที่เป็นขี้เหล้าเมายา หากนำเข้ามาขัดเกลาภายในวัดก็จะใสสะอาด ซึ่งอาตมาได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หลอด ถิรคุโณ เจ้าอาวาสวัดป่าเจดีย์แก้ว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ท่านจึงอนุญาตให้อาตมาลงมาดูแลวัดที่ยโสธรและสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆจากขวด โดยก่อนหน้านี้วัดได้มีการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังแรกด้วยขวดแก้วเมื่อปี 2532 ต่อมาก่อสร้างอุโบสถกลางน้ำที่ใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานองค์พระประธานและเป็นสถานที่ปฏิบัติกิจของสงฆ์ภายในวัดและก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 2549 ก็ได้นำขวดแก้วหลากสีสันนำไปก่อสร้างเป็นอุโบสถทั้งหลังไม่ว่าจะเป็นทางเดินเข้าอุโบสถ ผนังอุโบสถทั้ง 4 ด้านและหลังคาอุโบสถก็จะทำด้วยขวดแก้วทั้งหมดโดยนำขวดแก้วขนาดต่างๆ ไปจัดเรียงเป็นลวดลายต่างๆ มีโครงสร้างหลักเป็นปูนซีเมนต์เสริมเหล็ก ต่อมาสร้างเมรุเผาศพ หอระฆังและกุฏิสงฆ์ นอกจากนี้กำลังสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่เพื่อทดแทนหลังเก่าที่ผุพังไป และอาตมาก็จะสร้างต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนขวดนั้นได้มาจากญาติโยมที่นำมาบริจาคหรือทำเป็นทอดผ้าป่า โดยขั้นตอนแรกหลังจากที่ได้ขวดมาต้องแช่น้ำไว้ 1 ชั่วโมงเพื่อให้สติ๊กเกอร์ลอกออก จากนั้นนำมาล้างขัดให้สะอาด จากนั้นก็นำปูนมาผสมแล้วติดลงไปในผนังซึ่งช่วงลำบากคือตอนทำมุม ช่วงที่แคบ ซึ่งอาตมาก็จะลงมือทำกับญาติโยมเองโดยไม่ต้องจ้างช่าง โดยจะสร้างอะไรก็ต้องให้มีขวดทุกอย่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดดังกล่าวเดิมเป็นดอนปู่ตาประจำหมู่บ้านต่อมาได้มีพระสงฆ์เข้าไปพัฒนาเป็นที่พักสงฆ์จนกระทั่งเมื่อปี 2532 หลวงปู่หลอด ถิรคุโณหรือพระครูวิเวกธรรมาจารย์ เจ้าอาวาสวัดป่ามหาเจดีย์แก้ว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ จึงได้มาจำพรรษาอยู่ที่แห่งนี้และได้ริเริ่มนำชาวบ้านช่วยกันนำขวดแก้วก่อสร้างเป็นศาลาปฏิบัติธรรมเป็นหลังแรกและก่อสร้างสำเร็จเมื่อปี 2535 ด้วยเงินบริจาคของญาติโยมที่ศรัทธา หลังก่อสร้างเสร็จเป็นศาลาขวดทั้งหลังจึงเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไปและญาติโยมที่เดินทางเข้าไปปฏิบัติธรรมภายในวัดจนได้ตั้งชื่อใหม่เป็นวัดล้านขวด หลังจากนั้นทางวัดก็ได้ขอบริจาคขวดรวมทั้งปัจจัยกับทางญาติโยมเพิ่มเติมอีกเพื่อดำเนินการก่อสร้างอุโบสถกลางน้ำหลังใหม่ขึ้นมาอีก รวมทั้งสร้างหอระฆังและเมรุเผาศพจนเสร็จและปัจจุบันนี้ก็อยู่ระหว่างการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่อยู่ซึ่งยังก่อสร้างไม่เสร็จ รวมแล้วมีการใช้ขวดไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านขวด
