ระเบิด3จุด”ยะลา”ลวงจนท.ลอบบึ้มซ้ำ ชุดอีโอดี-อส.ทพ.ดับ2เจ็บเพียบ คาดพุ่งเป้าผู้การจังหวัด

เมื่อเวลา 07.00น. วันที่ 14 กันยายน ศูนย์วิทยุตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้รับแจ้งเหตุระเบิดเสาไฟฟ้าริมถนน บริเวณ บ้านลาเตอะ หมู่ที่ 5 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา เหตุเกิดประมาณ 01.00น. คืนที่ผ่านมา เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จึงแจ้ง พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด(EOD ) ภ.จว.ยะลา เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.กาบัง จ.ยะลา และ นายมนุญ พรหมน้อย นายอำเภอกาบัง พร้อมกำลังเข้าร่วมตรวจสอบ พบเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 1 ต้น ไม่พบผู้บาดเจ็บที่เกิดเหตุพบคราบดินระเบิด เศษกล่องเหล็กชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตัวจุดชนวนระเบิดกระจัดกระจาย เบื้องต้นทราบว่า ราวเวลา 01.00น. ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้อง ก่อนกระแสไฟฟ้าดับ คาดว่าคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์

ต่อมาเวลา 08.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.สายูตี กาเตะ รอง ผกก.ป.สภ.ยะหา พ.ต.ท.ประยุทธ เหมืองทอง สวป.นำกำลังไปตรวจสอบกล่องต้องสงสัยบริเวณเชิงสะพานรอยต่อบ้านอาเส็น หมู่ 6 ต.ยะหา กับบ้านปาแดรู หมู่ที่ 1 ต.กาตอง พบกล่องกระดาษวางอยู่ขอบสะพานบนทางหลวงสาย 4070(ยะหา-กาบัง) ภายในอัดก้อนหินกับดินลูกรัง คาดว่าคนร้ายสร้างความวุ่นวาย


จากนั้นเวลา 09.15น. ส.ต.ธเนศ พุทโธ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 บ้านสะปาเราะ หมู่ 5 ต.ยะหา อ.ยะหา นำกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ 5 นาย นั่งรถปิกอัพยี่ห้ออิซูซุสีสดำ ทะเบียน 1 ฒพ 818 กรุงเทพมหานคร เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุระเบิดพื้นที่บ้านลาตอ หมู่ 5 ต.กาบัง เขตติดต่อ อ.ยะหา เมื่อถึงบ้านปาแดรู หมู่ที่ 1 ต.กาตอง คนร้ายลอบลอบนำระเบิดแสวงเครื่องอัดถังแก๊สปิกนิกน้ำหนักเกือบ 30 กิโลกรัมซุกซ่อนในกอหญ้าใกล้เสาหลักทางโค้ง ก่อนจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ทำให้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้รถปิกอัพถูกสะเก็ดระเบิดกระจกหน้าแตกพรุนทั้งคัน ส.ต.ธเนศ พุทโธ อายุ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสพร้อมกำลังพลทั้งหมด ทราบชื่อเบื้องต้น มี อส.ทพ.อาวุธ อุปพงศ์ อายุ 26 ปี อส.ทพ.รัฐพล ชุมพล อายุ 20 ปี อส.ทพ.รักพงษ์ แก้วเกตุ อายุ 22 ปี และ อส.ทพ.สมพงศ์ เดชบุรี อายุ 36 ปี ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะหาเดินทางเข้านำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา ก่อนส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ยะลา แต่ส.ต.ธเนศ พุทโธ เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตอีก 1 ราย คือ  ดาบตำรวจอนิรุทธ จันทะวงษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด อีโอดี ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เดิมสังกัด ตชด.31 จังหวัดพิษณุโลก มาช่วยราชการ ชุดปฏิบัติการ ชป.วินิจ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้

Advertisement


หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จ.ยะลา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด(อีโอดี)”ศรศึก-ศรชัย”ภ.จ.ยะลา ชุดวินิจ จากศูนย์ข้อมูลวัตถุระเบิด ภาค 9 (ศชต.เดิม)และชุด”อโณทัย”ของเจ้าหน้าที่ทหาร รวม 3 ชุด นายชัยชนะ กฤตยานาถ นายอำเภอยะหา สนธิกำลังเดินทางรุดไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบจุดระเบิดอยู่ใกล้หลักคอนกรีตทางโค้ง ระหว่างหลัก กม. 13-14 เป็นหลุมตื้นๆมีเศษดินกระจัดกระจายและรอยเลือดบนถนน ขณะที่ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จ.ยะลา กำลังเดินตรวจสถานที่เกิดเหตุ ได้เกิดระเบิดดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไห ทำให้เกิดอาการจุกแน่นหน้าอก และ หูอื้ออย่างรุนแรง แรงระเบิดยังทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด”วินิจ”บาดเจ็บทั้งหมดรวม 4 นาย มี ร.ต.ท.ยุทธนา เทพสถิต หัวหน้าชุดบาดเจ็บสาหัส พร้อม ด.ต.วรวิชัย บุญรักษา ด.ต.อนิรุธ จันทร์พงศ์ และ จ.ส.ต.อนัสดี สะตือ พลขับ


นอกจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย ท ราบชื่อคือ ร.ต.อ.อนุสรณ์ สีแก้วเขียว อายุ 48 ปี ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ แก้วมี อายุ 27 ปี สาหัส ด.ต.สนั่น ขุนทองปาน อายุ 47 ปี จ.ส.ต.อำนาจ พลจันทร์ อายุ 50 ปี จ.ส.ต.สุวัฒน์ หมั่นสดับ อายุ 36 ปี จ.ส.ต.พงศกร คำแสนโต อายุ 40 ปี จ.ส.ต.สมเกียรติ คชพันธุ์ อายุ 34 ปี ส.ต.อ.เอกชัย สมอคำ อายุ 38 ปี ส.ต.ต.อฏฮา สาแม อายถ 25 ปี ส.ต.ท.ณัฐพล สุดา อายุ 23 ปี ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ พลประสิทธิ์ อายุ 29 ปี จ.ส.อ.อำนาจ ผลวิจิตร อายุ 50 ปี ส่วนชาวบ้านขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านถูกสะเก็ดระเบิด มี นายสุริยัน สังช์สุข อุ 30 ปี น.ส.ฟารีดะ มะอีซอ อายุ 19 ปี น.ส.ฮาบีบะห์ มะอีซอ อายุ 23 ปี นายอนุรุธ จันทวงศ์ อายุ 30 ปี นายประยงค์ อันเท่ห์ อายุ 35 ปี นายภาสพันธ์ การะภาค อายุ 30 ปี นายอาวุธ หุบกะพง อายุ 30 ปี ทั้งหมดนำตัวลำเลียงส่งโรงพยาบาล
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า ระเบิดลูกที่ 2 ห่างจากลูกแรกราว 3.50 เมตร ใช้ถังแก๊สปิกนิกชุดชนวนกับวิทยุสื่อสาร พบหลุมระเบิดลึกใกล้เคียงกันลึกกว้างราว 1×2 ฟุต มีชิ้นส่วนระเบิดสะเก็ดระเบิดกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มผู้ก่อเหตุร้ายสร้างสถานการณ์


เมื่อเวลา 13.30น. วันเดียวกัน ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวต่อเกิดเหตุระเบิดบ้านย่อยบ้านลาแล หมู่ 5 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา ว่า เมื่อเวลา 07.00น. วันที่ 14 กันยายน 2560 คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าริมถนนบ้านลาเต๊าะ บ้านย่อยบ้านลาแล หมู่ที่ 5 ต.กาบัง แรงระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย 1 ต้น ต่อมาชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 47 ได้สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการทำลายวัตถุระเบิด(EOD) หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ภูธรจังหวัดยะลา เข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบเหตุระเบิดเสาไฟฟ้า ระหว่างทางก่อนถึงถนนสาย 4070 บ้านปะแดรู หมู่ที่ 1 ต.กาตอง อ.ยะหา ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร คนร้ายได้จุดชนวนระเบิด 1 ครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุได้เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้ง แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และ บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
“พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวบรวมงานด้านการข่าวเพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ และสั่งการให้ทุกหน่วยปฏิบัติการเชิงรุกในการติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ สมศักดิ์ศรีของชายชาติทหารที่เสียสละแม้ชีวิต เพื่อความสงบสุขของพื้นที่และพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องสิทธิของกำลังพลของเจ้าหน้าที่ ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกนายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ รวมถึงดูแลครอบครัวของวีรชนผู้สูญเสีย ตามสิทธิที่ได้รับตามระเบียบของทางราชการอย่างเต็มที่” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวและว่า


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรงให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ทำให้ประชาชนในพื้นเกิดความเบื่อหน่าย ต่อการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้สร้างสถานการณ์ความรุนแรงในห้วงหลายปีที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยึดมั่น ในหลักการบังคับใช้กฎหมายโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และใช้งานการเมืองนำการทหารโดยแนวทางสันติวิธีในการปฏิบัติงาน เพื่อประโยชน์สุข ของพี่น้องประชาชนเป็นใหญ่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image