เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 15 กันยายน ร.ต.อ.ณรงค์ อาจคำพันธ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร รับแจ้งเหตุรถสองแถวประจำทางชนกับเสาไฟฟ้าส่องสว่าง คนขับหลบหนี บริเวณถนนแจ้งสนิท หน้าแขวงทางหลวงยโสธร ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร จึงรุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองยโสธร และหน่วยฮุก 31 ยโสธร
เมื่อไปถึงพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ป้ายทะเบียนสีเหลือง หมายเลข 10-1927 ยโสธร เป็นรถสองแถวประจำทางโดยสารระหว่าง รพ.ยโสธร-บ้านตาดทอง อยู่ในสภาพพังยับ โครงหน้ารถและกระบะท้ายแยกกันออกจากกันเป็นสองส่วน กระจกทุกบานแตกละเอียด น้ำมันรั่วกระจายเต็มถนน ใกล้กันพบเสาไฟฟ้าส่องสว่างเสียหายเกือบหักล้ม
สอบถามนายหยุ่น สกุลเวศย์ อายุ 70 ปี เจ้าของรถสองแถว มายืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าช่วงเวลา 05.20 น. ลูกชายตนมาปลุกบอกมามีคนขับรถกระบะของตนไปชนเสาไฟฟ้า ตนจึงเดินทางออกมาดูพบว่าเป็นรถกระบะของตนจริง โดยปกติตนจะจอดรถไว้หน้าบ้านเป็นประจำทุกวันและเสียบกุญแจไว้ในรถตลอด เนื่องจากรถเก่าและประตูรถล็อคไม่ได้แล้วไม่คิดว่าจะมีใครมาขโมยไปขับจนเกินอุบัติเหตุในครั้งนี้
ขณะที่นายสรศักดิ์ จินาพันธ์ อายุ 56 ปี ชาวบ้านที่อยู่ระแวงใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงเวลา 05.20 น.ตนได้ยินเสียงดังมากจึงขับรถออกมาดู พอใกล้ถึงที่เกิดเหตุเห็นผู้ชายอายุราว 25-30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นไม่ทราบสี กางเกงขายาวสีดำ วิ่งออกมาจากที่เกิดเหตุได้ประมาณ 700 เมตร อยู่ในสภาพเลือดอาบทั่วไปหน้าและร่างกาย หลบหนีไปทางบ้านตาดทอง ตนสงสัยจึงขับรถไปต่อพบกระบะสองแถวอยู่ในสภาพชนกับเสาไฟฟ้าส่องสว่างสภาพพังยับ จึงคาดว่าผู้ชายที่วิ่งหนีเป็นคนขับแน่นอน หลังจากนั้นตนจึงรอยืนให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและมาทราบอีกครั้งว่ามีคนร้ายขโมยรถคันดังกล่าวมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองยโสธรกระจายกำลังตามหาตัวคนร้ายที่ขโมยรถมาขับจนเกิดอุบัติเหตุ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งเตรียมนำทรายมาโรยบนพื้นที่นำ้มันรั่วกระจายเต็มพื้นเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่อไป