จากกรณีคนร้ายวางระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ หน้าประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขากรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตประเวศ กรุงเทพฯ ได้เงินสดไปกว่า 3 แสนบาท เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 กันยายน ที่สน.ประเวศ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาติดตามความคืบหน้าพร้อมเรียกประชุมทีมคลี่คลายคดี และเปิดเผยว่า จากการพูดคุยเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ยังมีข้อสงสัยหลายเรื่อง จึงสั่งการให้ไปตรวจสอบในทุกประเด็น วันนี้ตนจะมาดูว่าประเด็นที่สั่งการไปมีความคืบหน้าครบถ้วน หรือมีอะไรที่ยังต้องเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุให้ชัดเจนได้ ต้องขอเวลาในการตรวจสอบให้ชัดแจ้ง และยังต้องรอผลการตรวจของผู้ชำนาญการอีกส่วนหนึ่งมาประกอบกัน ผลตรวจจะบ่งชี้ได้ว่ากลุ่มไหนเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิสูจน์ทราบ
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า บางเรื่องบางประเด็นไม่อยากพูด เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการพิสูจน์ทราบอยู่ หากเปิดประเด็นหรือขยาย ข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อนได้ ยืนยันว่าการติดตามตัวคนร้ายมีความคืบหน้ากว่าเดิม แต่ยังไม่ถึงจุดที่รู้ว่าคนร้ายมาจากไหน ก่อเหตุมีมากกว่า 1 คนหรือไม่ ใช้วิธีการไหนในการก่อเหตุ หลักฐานที่มีอยู่ยังบ่งชี้อะไรได้ไม่ชัดเจน จึงต้องรอหลักฐานอื่นที่กำลังตรวจสอบอยู่ เบื้องต้นประเด็นในการก่อเหตุตั้งไว้หลายประเด็น แต่ให้น้ำหนักไปในประเด็นที่มีการทำอันตรายสิ่งกีดกั้นที่คุ้มครองทรัพย์เพื่อประสงค์ต่อทรัพย์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพวงจรปิดที่เห็นคนร้ายในพื้นที่สน.หัวหมาก เป็นจุดสุดท้ายใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ในจุดที่เจ้าหน้าที่สงสัยไม่ใช่เฉพาะจุดนี้ ทุกๆ จุดจะต้องตรวจสอบหาข้อมูลเชิงลึก โดยจะนำข้อมูลจากจุดต่างๆ มารวมคู่ขนานกันไป ข้อมูลในขณะนี้ยังไม่สามารถบ่งชี้ถึงตัวคนร้ายได้ แต่เจ้าหน้าที่มีทิศทางในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อถามว่าจะสามารถออกหมายจับตามภาพวงจรปิดได้หรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จะต้องมาดูเพิ่มเติมว่าจะสามารถออกหมายจับตามภาพวงจรปิดหรือพยานที่เห็นเหตุการณ์ได้หรือยัง ถ้ายังไม่สามารถออกได้ เพราะอะไร จะพูดคุยกันในวันนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนกรุงเทพกรีฑา ก่อนจะเลยห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขากรุงเทพกรีฑา เพื่อดูลาดเลาว่าไม่มีคนอยู่บริเวณด้านหน้าห้าง จากนั้นได้วกรถกลับเข้าไปภายในห้าง ก่อนลงมือก่อเหตุใช้เวลา 5-6 นาที และขี่รถหลบหนีไปตามเส้นทางเดิมที่มา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิด เพื่อหาเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี โดยระดมกำลังตำรวจชุดสืบสวนทั้งจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 และตำรวจสืบสวนสน.ประเวศ เร่งหาข้อมูลคนร้ายเพิ่มเติม ขณะเดียวกันให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนในพื้นที่คาบเกี่ยวสน.ประเวศ ทั้งสน.ลาดพร้าว สน.หัวหมาก สน.บึงกุ่ม และสน.บางชัน ลงพื้นที่ตรวจสอบในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี
