รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยถึงการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับกรรมการและผู้บริหารของบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด(มหาชน) หรือสปอร์ต จากกรณีที่นายระวิ โหลทอง อาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้นสปอร์ต โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่ง จำนวน 500,000 บาท
ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) จึงตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าขณะเกิดเหตุนายระวิเป็นกรรมการและประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารของบริษัท ซึ่งข้อมูลผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2558 มีกำไรสุทธิ 14.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสก่อนหน้า ที่มีผลขาดทุนมาโดยตลอด และนายระวิได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าวซื้อหุ้นบริษัท โดยใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท โหลทอง โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 1,479,700 หุ้น ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยงบการเงินไตรมาส 3/2558 ต่อประชาชนเป็นการทั่วไปผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558
ดังนั้น การกระทำของนายระวิเป็นการซื้อหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชน เข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบต่อบุคคลภายนอก เป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ซึ่งมีระวางโทษอาญาตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 และมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/1 มาตรา 317/4 และมาตรา 317/5 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ฉบับที่ 5) พ.ศ.2559
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง(ค.ม.พ.) นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาบังคับใช้กับนายระวิ และได้ทำบันทึกยินยอมรับมาตรการลงโทษทางแพ่งและปฏิบัติตามบันทึกยินยอมดังกล่าวครบถ้วน โดยชำระค่าปรับทางแพ่ง จำนวน 500,000 บาท ซึ่งเงินค่าปรับทางแพ่งเป็นรายได้แผ่นดินที่ ก.ล.ต.จะนำส่งกระทรวงการคลังต่อไป ทั้งนี้ นอกจากการถูกลงโทษด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าว ก.ล.ต.สั่งห้ามมิให้นายระวิเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลา 1 ปีด้วย
