เด็กหญิงลาวอายุ 13 ปีทะเลาะกับเเม่หายจากบ้าน พบอยู่กับชายไทย อ้างสงสารเปิดห้องให้พัก ไม่ได้ละเมิดทางเพศ


แม่ชาวลาว ร้อง ตม.หนองคาย ช่วยตามหาลูกสาววัย 13 ปี หลังหายออกไปจากบ้านนาน 2 วัน ตำรวจควานหาหลักฐานพบมีชายไทยพาขึ้นรถยนต์จากร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมัน บังเอิญช่วงเที่ยงเห็นเด็กขี่ จยย.ออกมาที่ปั๊ม บอกถูกชายพาไปเปิดรีสอร์ทแล้วหายตัวไป หิวข้าวจึงยืมรถพนักงานรีสอร์ทออกมา สุดท้ายตำรวจตามรวบชายวัย 58 ปี ได้หลังกลับจากลาว อ้างสงสารเด็กเห็นอยู่คนเดียวจึงเปิดห้องให้พัก เจอข้อหาพรากผู้เยาว์

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 15 ก.ย. 60 ที่ห้องสืบสวน กองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย, พ.ต.ท.หญิงธาราทิพย์ จำรัส รองผกก.ตม., พ.ต.ต.ธีรพงศ์ ประจักษ์จิตร์ สว.ตม.หนองคาย ได้ร่วมกับสอบสวนจับกุมนายธีรภัทร ธรรมเจริญ อายุ 58 ปี ในข้อหาพรากผู้เยาว์โดยประมาทจากเหตุอันสมควรไปจากบิดามารดาโดยเด็กนั้นอายุต่ำกว่า 15 ปี

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีนางลัดดา ไซยะสิด อายุ 29 ปี ชาวนครหลวงเวียงจันทน์ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย และประสานขอความช่วยเหลือจาก พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย ให้ช่วยติดตามหา เด็กหญิงนา ลูกสาว วัย 13 ปี ซึ่งหายออกไปจากบ้าน หลังจากมีปากเสียงทะเลาะกับแม่เล็กน้อย

หลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย ได้สั่งการ ให้ พ.ต.ต.ธีรพงศ์ ประจักษ์จิตร์ สว.ตม. นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.หนองคาย ออกตรวจสอบ จนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 19.50 น. วันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา เด็กหญิงนา ถูกชายไทยคนหนึ่งพาขึ้นรถยนต์เก๋ง สีขาว ออกจากร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.สะพานมิตรภาพไทย –ลาว

Advertisement

จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (15 ก.ย. 60) เจ้าหน้าที่ ตม. ได้กลับมาตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในปั๊มน้ำมัน ก็พบ เด็กหญิงนา ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามายังร้านสะดวกซื้อ จึงรีบเอาตัวไว้และแจ้งกับนางลัดดา ไซยะสิด ว่าพบตัวลูกสาวแล้ว

ซึ่งจากการสอบถาม เด็กหญิงนา เล่าว่า วันเกิดเหตุ ขณะที่ตนนั่งรอเพื่อนอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันแห่งนี้ ก็มีชายไทยคนหนึ่ง เดินเข้ามาสอบถามว่า มาทำอะไรมืดค่ำ และชักชวนให้ตนไปพักที่บ้านเช่า ตนหลงเชื่อจึงขึ้นไปด้วย โดยชายคนดังกล่าวได้พาไปยังบ้านเช่า ที่บ้านแจ้งสว่าง ต.หนองกอมเกาะ จากนั้นจึงพาตนไปเปิดห้องพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในละแวกใกล้กัน โดยชายคนดังกล่าวอ้างกับพนักงานรีสอร์ทว่ารู้จักกับเจ้าของรีสอร์ทเพื่อจะได้ไม่ต้องกรอกข้อมูลลูกค้า เมื่อเปิดห้องพักแล้วตนอยู่กับชายคนดังกล่าวเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ไม่มีการกระทำล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด เป็นการนั่งพูดคุยกันตามปกติ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ออกจากห้องไปไม่มาหาอีก ซึ่งตนหิวข้าวเที่ยง จึงขอยืมรถจักรยานยนต์ของรีสอร์ทออกมาหาซื้อข้าวกิน จนมาเจอตำรวจ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ไปสอบถามยังรีสอร์ทดังกล่าว จนทราบว่าผู้มาพัก คือ นายธีรภัทร จึงนำข้อมูลทะเบียนราษฎร์พร้อมภาพถ่ายนายธีรภัทรมาให้ เด็กหญิงนา ชี้ตัว ก็ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน พร้อมทั้งตรวจสอบทราบว่านายธีรภัทรได้เดินทางไปยัง สปป.ลาว และจะกลับเข้ามาวันนี้ (15 ก.ย.60) จึงเฝ้าติดตามที่สะพานมิตรภาพไทย ลาว กระทั่งเวลาประมาณ 13.50 น. เจ้าหน้าที่พบนายธีรภัทร เดินทางกลับเข้าประเทศไทย จึงควบคุมตัวไว้ พร้อมสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และพ่อแม่ของเด็กสาวด้วย

Advertisement

จากการสอบสวนนายธีรภัทร ให้การว่า ตนเป็นตัวแทนจำหน่ายกาแฟชนิดขายตรงยี่ห้อหนึ่ง ต้องเดินทางไปติดต่อลูกค้าที่ประเทศลาว โดยในวันเกิดเหตุตนไม่ได้มีเจตนาร้ายที่จะล่อหลวงเด็กหญิง แต่สงสารเห็นว่าไม่มีที่นอน จึงเปิดห้องพักให้ และให้เงินไว้กินข้าว 150 บาท จากนั้นก็ไปติดต่อธุรกิจ ยืนยันว่าไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด

ขณะที่นางลัดดา แม่ของเด็ก บอกว่า เด็กหญิงนา เป็นลูกกับสามีเก่าชาวลาว ตอนนี้ตนได้สามีใหม่เป็นคนไทย จึงพาลูกมาอยู่ด้วยกันที่ จ.หนองคาย เมื่อเร็ว ๆ นี้มีปากเสียงทะเลาะกันเล็กน้อย ลูกสาวน้อยใจจึงออกจากบ้าน ตนก็รอให้ลูกกลับแต่ก็ไม่เห็น ร้อนใจมากจึงไปแจ้งความ และขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายธีรภัทรจนถึงที่สุด จะไม่ยอมความเด็ดขาด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว เด็กหญิงนา ไปตรวจร่างกายว่ามีร่องรอยการถูกกระทำชำเราหรือไม่ และแจ้งข้อหานายธีรภัทร พรากผู้เยาว์โดยปราศจากเหตุอันสวมควรไปจากบิดามารดาโดยเด็กนั้นอายุต่ำกว่า 15 ปี แล้วคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคายดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image