ประหนึ่งว่า ข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ “แอบพบ”กับ นายทักษิณ ชินวัตร ระหว่างเยือนอังกฤษ
จะมากด้วยความสลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อน
ทั้งๆที่ในความเป็นจริง การปล่อย “ข่าวลือ” ในลักษณะนี้ออกมาไม่ได้สลับซับซ้อนและซ่อนเงื่อน ซ่อนปมอะไรเลย
จึงถูกต้องแล้วที่โฆษกกระทรวงกลาโหมจะแถลง
“เป็นเรื่องที่มโนกันเอง เป็นไปไม่ได้เลยที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่จะไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร ขอย้ำว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่มีเหตุผล ความจำเป็นที่จะต้องพบ”
ข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พบ นายทักษิณ ชินวัตร จึงดำเนินไปเหมือนกับกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไป
นั่นก็คือ ล้วนแต่เป็น “การมโน” ทั้งสิ้น
ถามว่าข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พบกับ นายทักษิณ ชินวัตร ที่กรุงลอนดอน หลุดออกมาจากไหน
แน่ชัดว่าไม่ได้หลุดจากฝ่าย นายทักษิณ ชินวัตร
ถามว่าข่าวการหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผลจากการไฟเขียวของคสช. เป็นการตั้งข้อสังเกตมาจากไหน
แน่ชัดว่าไม่ได้มาจากฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ตรงกันข้าม สื่อที่ตั้งข้อสังเกตกรณีการไปกรุงลอนดอนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นสื่อที่ “ฝ่ายความมั่นคง” รู้ดีว่าเป็นสื่อที่เคยเป็นพวกเดียวกับ “รัฐประหาร”
เหมือนกับความสงสัยในกรณีการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มาจากฝ่ายเดียวกัน
มาจาก “ประชาธิปัตย์” มาจาก “กปปส.”
ตรงกันข้าม ต่อ 2 กรณีนี้ฝ่ายของ นายทักษิณ ชินวัตร เงียบกริบ ฝ่ายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เงียบกริบ
ทั้งหมดนี้มาจากความรู้สึกจากพวกที่เคยสมาทานกับกระบวนการ “รัฐประหาร”ทั้งสิ้น
ไม่ว่าเมื่อเดือน กันยายน 2549
ไม่ว่าเมื่อเดือน พฤษภาคม 2557
เป็นเพราะเกิดความสงสัย เกิดความรู้สึกเหมือนกับกำลังถูกหลอก มิใช่เป็นการหลอกจาก นายทักษิณ-น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
หากแต่ถูกหลอกจาก “พวกเดียวกัน”
