เงินบาททรงตัวกรอบแคบ จับตาผลประชุมธ.กลางสหรัฐ-สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี

แฟ้มภาพ

“เงินบาททรงตัวกรอบแคบ ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นต่อเนื่อง”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาททรงตัวในกรอบแคบ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้น หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลต่อประเด็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือลงบางส่วน อย่างไรก็ดี เงินบาทสามารถลดช่วงติดลบ ก่อนจะกลับมายืนในกรอบแคบๆ ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เพราะแม้เงินดอลลาร์ฯ จะมีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แต่เงินบาทก็มีปัจจัยบวกจากกระแสเงินทุนไหลเข้าของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงข่าวที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอีกครั้งข้ามญี่ปุ่นในวันศุกร์ ซึ่งกดดันเงินดอลลาร์ฯ

สำหรับในวันศุกร์ (15 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 33.08 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 ก.ย.)

Advertisement

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ตลอดจนผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และประมาณการเศรษฐกิจชุดใหม่ของเฟด กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การขออนุญาตก่อสร้าง ดัชนีราคานำเข้าส่งออก ยอดขายบ้านมือสอง และผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดอื่นๆ ที่มีกำหนดการในช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,660.53 เพิ่มขึ้น 1.52% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นประมาณ 5.98% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 60,217.78 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 566.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.01% จากสัปดาห์ก่อน

ส่วนดัชนีตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งการเคลื่อนไหวของดัชนีฯเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับตลาดต่างประเทศเกือบตลอดสัปดาห์ โดยได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์วันชาติเกาหลีเหนือที่เป็นไปอย่างสงบในช่วงต้นสัปดาห์ ประกอบกับสถานการณ์ที่ดีขึ้นของพายุเออร์มาในสหรัฐฯ ขณะที่ SET Index ช่วงปลายสัปดาห์ ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ แม้จะลดช่วงบวกลงเล็กน้อยจากข่าวการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

Advertisement

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,650 และ 1,635 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,670 และ 1,680 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ สถานการณ์ทางการเมืองบริเวณคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงทิศทางเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญ ได้แก่ ประมาณการเศรษฐกิจของเฟด, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. ตลอดจน ดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) และดัชนีการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนก.ย., ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ อาทิ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น ดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนก.ย.ของประเทศในแถบยุโรป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image