ครอปไลฟ์ เอเชีย พาสื่อมวลชนชมการทำนาแบบผสมผสาน ศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิบ้านดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ หนุนเกษตรกรผลิตเมล็ดข้าวพันธุ์ หอมมะลิมาตรฐานเมล็ดพันธุ์ข้าว GAP สร้างรายได้สูงกว่าขายข้าวเปลือ กธรรมดากว่าเท่าตัว ด้วยหลักคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพี ยงผนวกแนวทางการปลูกพืชแบบผสมผส าน IPM สร้างชุมชนเข้มแข็งปลอดหนี้นอก ระบบ 100%
มร.แอนดริว โรเบิร์ต ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับดูแลการใช้ สารอารักขาพืชอย่างถูกต้อง ครอปไลฟ์ เอเชีย เปิดเผยในโอกาสครอปไลฟ์เอเชียนำ คณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมศูนย์ส่งเส ริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะ ลิบ้านดงลิง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ว่า ครอปไลฟ์เอเชียเป็นองค์กรไม่แสว งหาผลกำไร และเป็นหน่วยงานระดับภูมิภาคของ ครอปไลฟ์อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มีพันธกิจสำคัญด้านสนับสนุนเ รื่องความมั่นคงทางอาหาร โดยใช้นวัตกรรมทางเกษตรกรรม ภายใต้การสนับสนุนของ 15 สมาชิกในภูมิภาค ซึ่งในประเทศไทย ครอปไลฟ์ เอเชียได้เข้าไปให้ความรู้เกี่ย วกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการ เกษตรผ่านสมาคม สมาพันธ์ที่มีพันธกิจเดียวกันกั บครอปไลฟ์ เอเชีย ที่มุ่งให้เกษตรกรภาคการผลิตสิน ค้าเกษตรสำคัญของไทย อาทิ ข้าว ข้าวโพด ยางพารา อ้อย ผลไม้ ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ผักและผลไม้
โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐอย่ างกรมวิชาการเกษตร สถาบันการศึกษา องค์กรท้องถิ่น เพื่อให้เกษตรกรเรียนรู้เข้าใจอ ย่างถูกต้องหากต้องใช้สารอารั กขาพืชในกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเลือกใช้ให้ถูกต้องกั บโรคและแมลง การอ่านฉลาก การปฏิบัติตนขณะฉีดพ่น การเก็บซากบรรจุภัณฑ์ จนถึงระยะเวลาการเก็บเกี่ยวที่ป ลอดภัย เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าของเกษ ตรกร ให้สามารถทำราคา แข่งขันเป็นที่ต้องการของตลาด และปลอดภัยสำหรับตนเอง ชุมชนและผู้บริโภค ผ่านกิจกรรมและงบประมาณ กว่า 70 ล้านบาท /ปี ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา โดยในปีหน้าได้ตั้งเป้าหมายการใ ห้การอบรมแก่เกษตรกรในพื้นที่ การเกษตรภูมิภาคในอาเซียนอี กว่า 14 ล้านบาท
สำหรับการสนับสนุนแก่เกษตรกรแก่ กลุ่มเกษตรกรบ้านดงลิงนั้น ซึ่งถือเป็นศูนย์การเรียนรู้เศร ษฐกิจพอเพียงชุมชนต้นแบบ ที่เป็นตัวอย่างการเปิดรับการเรี ยนรู้นวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเก ษตรใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้กับกลุ่มของตน พัฒนาต่อยอด จนได้รับการยอมรับในการผลิตสินค้ ามาตรฐาน GAP (Good Agriculture Practice) หรือสินค้าเกษตรปลอดภัย กระทั่งได้รับการคัดเลือกเกษตรก รและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่ งชาติประจำปี 2559 เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลของพร ะบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในที่ สุด
นายไพศาล รัตน์วิสัย ประธานศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิบ้านดงลิง พูดถึงการบริหารจัดการกลุ่มว่า สมาชิกในบ้านดงลิง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม จาก 113 ครัวเรือน ทำนาได้ 2 ครั้งต่อปี ในพื้นที่นาข้าว 1,351ไร่ เดิมประสบปัญหาข้าวปนเมื่อซื้อเ มล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่มีขายใ นร้านทั่วไป และได้รวมกลุ่มกันจัดตั้งขึ้นเพื่ อพัฒนาพันธุ์ข้าวตั้งแต่ปี 2554 โดยมีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาให้คว ามรู้ในการลดต้นทุนการผลิต การบริหารจัดการไร่นา การทำบัญชีครัวเรือนเพื่อหาต้นทุ นการเกษตรที่แท้จริง จนสามารถลดต้นทุนการเกษตรให้เหลื อเพียง 1,430 บาทต่อไร่ ในขณะเดียวกันก็มีหลายหน่วยงานทั้ งภาครัฐและเอกชนเข้ามาให้ความรู้ ในการให้ความรู้ การบริหารจัดการโรคและแมลงในแปล งเกษตรสามารถ ยกระดับให้ได้มาตรฐานตามนโยบายน้ อมนำศาสตร์พระราชาปรั ชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ควบคู่ไปด้วยจนกลุ่มสามารถบริ หารจัดการปัญหาโรคและแมลง จนช่วยลดต้นทุนการผลิตลงไปได้
ปัจจุบันเกษตรกรกลุ่มนี้สามารถคั ดเลือกและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุ มชนภายใต้ตรารับรอง GAP สินค้าปลอดภัย มีเครื่องจักรทางการเกษตรเป็นขอ งชุมชน รถดำนา รถเกี่ยวข้าว โรงสีชุมชน มีทุนภายใน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินหมุนเวียนจากกองทุน หมู่บ้าน กลุ่มออมทรัพย์ และกลุ่มอาชีพทั้ง 10 กลุ่ม ชุมชนไม่มีปัญหาหนี้นอกระบบ 100 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
ทางด้าน นายสมัคร สมรภูมิ เกษตรกรสมาชิกเครือข่ายที่ลงทะเ บียนเป็นกลุ่มที่ร่วมผลิตเมล็ ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ พื้นที่ปลูกข้าวแบบผสมผสานจำนวน 5 ไร่ แบ่งปลูกข้าวจำนวน 4.2 ไร่ ที่เหลือ ขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกพืชผสมผสานไว้กิน และขายในยามที่ไม่ได้ปลูกข้าว เล่าให้ฟังว่า หลังเกษียณกรมพัฒนาชุมชน ตนได้มาใช้ชีวิตตามแนวปรัชญาเศร ษฐกิจพอเพียงโดยได้เริ่มทำนาจริ งจังมา 5 ปี เรียนรู้รูปแบบการทำนามาจากปู่ย่ าตายาย ประกอบกับคำแนะนำ การเข้ามาให้การอบรมจากหลายหน่ว ยงานผ่านศูนย์ส่งเสริมฯ และได้นำมาประยุกต์ใช้ในนาของตน ด้วยรูปแบบการผสมผสาน ใช้วิธีการไถกลบตอซัง ทดแทนการเผา จากนั้นก็ปล่อยน้ำเข้านาพร้อมใส่ ปุ๋ยคอกและจุลินทรีย์เพื่อเร่ งการย่อยสลายในดิน แล้วจึงไถดะเพื่อปรับหน้าดิน จากนั้นให้รถดำของกลุ่มฯ มาดำเนินการปักดำ ซึ่งรวดเร็ว ได้ระยะ ประหยัด ทุ่นแรง และเวลามาก เพราะกลุ่มฯจะรับผิดชอบเรื่องเพ าะเมล็ด ให้เสร็จ มั่นใจได้ว่าเมล็ดข้าวไม่ปนแน่น อน เพราะกลุ่มฯมีการดูแลกันเองอย่า งเข้มงวดเพื่อรักษามาตรฐานการผลิ ต
โดยในพื้นที่ 4.2 ไร่ที่เขาตัดสินใจเข้าร่วมโครงก ารเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกหอมมะลินั้ น มีต้นทุนการผลิตที่ใช้ทั้งปุ๋ย ฮอร์โมน และวิธีการแบบผสมผสานหรือ IPM (Integrated Pest Management) อยู่ที่กิโลกรัมละ 5.1 บาท ได้ผลผลิตทั้งหมด ประมาณ 700 กิโลกรัมต่อไร่ โดยกลุ่มฯรับซื้อข้าวที่ได้คุณภ าพอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 15 บาท หากขายให้นอกกลุ่มจะขายได้อยู่ที่ ราคากิโลกรัมละ 25 บาท ฤดูกาลที่ผ่านมา เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิของกลุ่ม ผลิตไม่พอความต้องการ โดยคาดว่าปีนี้ราคาเมล็ดพันธุ์ข้ าวหอมมะลิจะสูงขึ้นแน่นอนซึ่งเป็ นผลกระทบจากน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผ่ านมา
ตัวอย่างของศูนย์ส่งเสริมและผลิ ตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิบ้านดงลิ ง ดูจะเป็นอีกหน้าหนึ่งที่ได้พิสู จน์ให้เห็นว่าการเป็น Smart Farmer ภายใต้ธงที่ภาครัฐต้องการมุ่งไป ให้ถึงนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากเกิ นกว่าความพยายามของเกษตรกรพร้ อมเรียนรู้ปรับเปลี่ยนให้ เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และกระบวนการผลิตสินค้าให้เป็น “สินค้าเกษตรปลอดภัย” ตอบโจทย์ให้ภาคการเกษตรของไทยมั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน บนแนวร่วม ไทยแลนด์ 4.0 นั่นเอง