เมื่อวันที่ 17 กันยายน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักพระราชวังได้ออกประกาศ เรื่องการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพได้จนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้
เนื่องจากสำนักพระราชวังจะดำเนินการจัดเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2559 เป็นวันแรกที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จนถึงวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมารวมเวลา 317 วัน นั้น
มีประชาชนเข้ากราบถวายบังคมรวมทั้งสิ้น 10,654,552 คน และมีผู้ถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล รวมเป็นเงิน 790,646,708.76 บาท
พล.ท.สรรเสริญกล่าว “ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร ภาคเอกชน และจิตอาสาทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันทำให้การเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมพระเกียรติ”
“แสดงถึงความจงรักภักดีที่มีต่อองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพรัก และเทิดทูนของคนไทย ส่วนทางนายกฯ ยืนยันว่าการเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในส่วนของรัฐบาลนั้นมีความคืบหน้าไปเป็นลำดับ โดยการจัดสร้างพระเมรุมาศคาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนดเวลาคือภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้”
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทยอยนำงานประติมากรรม และงานประณีตศิลป์เข้าไปติดตั้งแล้ว สำหรับการซักซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ การถ่ายทอดสด และบันทึกภาพภาพเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ การอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชน และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย”
