สงครามภาคใต้ยังไม่ยุติ

แฟ้มภาพ

ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับญาติมิตรของดาบตำรวจอนิรุทธ จันทะวงษ์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดยะลา และสิบตรีธเนตร พุทโท อาสาสมัครทหารพราน ซึ่งได้รับบาดเจ็บจนเสียชีวิตขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตอำเภอยะหา จังหวัดยะลา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงว่าคนร้ายได้วางแผนที่จะสังหารเจ้าหน้าที่เอาไว้เป็นอย่างดี เริ่มด้วยการวางระเบิดเสาไฟฟ้าในหมู่บ้านเมื่อเวลาประมาณตีหนึ่ง เมื่อเกิดระเบิดขึ้นแล้ว ราษฎรในหมู่บ้านไม่มีใครกล้าออกไปดูเหตุการณ์ จนกระทั่งเช้าวันนั้นเวลาประมาณ 8 นาฬิกา ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสถานที่เกิดเหตุอยู่ คนร้ายจึงจุดชนวนลูกระเบิดลูกที่สอง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายนาย

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 9 นาฬิกา ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งกำลังตรวจที่เกิดเหตุอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน คนร้ายก็จุดชนวนระเบิดลูกที่ 3 ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้น บางคนได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมทั้ง ด.ต.อนิรุทธ และ ส.ต.ธเนตร ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากภาพข่าวที่เผยแพร่ทางวิทยุโทรทัศน์ คนร้ายเลือกทำงานในขณะที่เจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมากทั้งทหารและตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้ชิดกัน และรถยนต์ที่เจ้าหน้าที่ใช้เป็นพาหนะก็กำลังจอดอยู่ใกล้กัน รวมทั้งรถยนต์หุ้มเกราะของทหารด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดระเบิดขึ้น จึงมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

Advertisement

และเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วก็เป็นที่เห็นได้ชัดว่าการตอบโต้ของเจ้าหน้าที่ทำไม่ได้เลย กำลังส่วนหนึ่งของเจ้าหน้าที่ที่ลงจากรถไปแล้วใช้อาวุธปืนยิงนั้นน่าเชื่อว่าเป็นการยิงขู่โดยไม่เห็นที่หมาย ในขณะเดียวกันก็มีเสียงเรียกเซ็งแซ่สับสน ไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใครให้นำยานพาหนะและเจ้าหน้าที่เข้าไปนำคนเจ็บออกจากที่เกิดเหตุ

ภาพข่าวและรายงานข่าวทำให้เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีการระวังป้องกันอย่างใดเลย การเคลื่อนกำลังของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างเปิดเผย และได้รับการถ่ายทอดสดโดยกล้องถ่ายทางโทรศัพท์ไปยังสื่อ รวมทั้งสื่อสังคมอย่างเฟซบุ๊กด้วย ฉะนั้นคนร้ายจึงคงจะเห็นความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่โดยใกล้ชิดและทุกระยะตลอดเวลา

หลังจากที่เกิดเหตุแล้ว พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้ทหารหน่วยเฉพาะกิจจังหวัดยะลา เปิดปฏิบัติการเชิงรุกเข้าตรวจสอบสถานที่เป้าหมายต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายกลุ่มนี้ซ่อนตัวอยู่ และให้เก็บรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปสู่การจับกุมกลุ่มคนร้ายซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มเดิม

Advertisement

เป็นที่น่าสังเกตว่าการวางแผนลอบทำร้ายและสังหารเจ้าหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้นี้เกิดแล้วเกิดอีก เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และทุกครั้งหลังจากที่เกิดเหตุแล้วผู้บังคับบัญชาทั้งฝ่ายทหารและตำรวจก็ออกมากำชับเจ้าหน้าที่ให้กวดขันติดตามเอาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ บางครั้งก็จับตัวผู้กระทำความผิดได้ และในบางกรณีก็มีวิสามัญฆาตกรรม (คนร้ายยิงต่อสู้และต้องกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ตายขณะกำลังต่อสู้กัน)

เหตุร้ายที่เกิดแล้วเกิดอีกนี้ทำให้สงสัยว่างานข่าวกรองของทางราชการคงจะไม่ได้ผล เพราะถ้าหากได้ผลเจ้าหน้าที่ก็น่าจะรู้เบาะแสความเคลื่อนไหวของคนร้ายล่วงหน้าและป้องกันตัวได้ดีกว่าที่ปรากฏมาแล้ว อันที่จริงก็น่าเห็นใจและเข้าใจ เพราะขณะนี้เท่ากับว่าเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจกำลังปฏิบัติงานอยู่ในวงล้อมของศัตรู ที่ตั้งของทหารและตำรวจส่วนมากอยู่กลางหรือใกล้กับหมู่บ้าน ไม่มีทางรู้ว่าราษฎรในหมู่บ้านใครเป็นคนร้าย หรือใครคอยส่งข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ให้คนร้ายรู้

ยิ่งกว่านั้น ก่อนเกิดเหตุร้ายยังปรากฏว่าไม่มีการระวังป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมากเคลื่อนกำลังโดยไม่มีการลาดตระเวนระวังสนับสนุนทางอากาศ และเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีแผนหรือการ เตรียมตอบโต้หรือส่งผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากที่เกิดเหตุโดยฉับพลันด้วย

ถ้าหากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ยังเป็นแบบคอยแก้ปัญหาหลังเกิดเหตุเช่นนี้ ก็เชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารจะได้รับความสูญเสียต่อไปเรื่อยๆ และเหตุร้ายที่เกิดขึ้นจะกระทบกระเทือนขวัญหรือกำลังใจของเจ้าหน้าที่ ครอบครัวของเจ้าหน้าที่และของราษฎรอย่างรุนแรง และในที่สุดเราก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามอันยืดเยื้อนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image