ยลโฉม นาวารา”แบล๊ก อีดิชั่น” แต่งดำสู้ศึกปิกอัพ

ถือว่าเป็นโชคดีของลูกค้ารถกระบะหรือปิกอัพในบ้านเรา ในฐานะไทยเป็นฐานการผลิตอันดับต้นๆ ของโลก แถมส่งออกไปขายทั่วโลก ปิกอัพจากประเทศไทยได้รับการยอมรับ จากนโยบายส่งเสริมการผลิตรถปิกอัพ

อานิสงส์ดังกล่าว ช่วยทำให้เสียภาษีในประเทศอัตราต่ำ แม้ว่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่ารถเก๋ง จนกระทั่งปัจจุบันคิดภาษีตามอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แต่อีกมุมหนึ่ง เป็นรถเพื่อใช้ประกอบธุรกิจทำมาหาเลี้ยงชีพ ทั้งที่ในความเป็นจริง จะเอามาใช้งานกันอย่างหลากหลาย ขนทั้งคน ขนทั้งของ ก็ตาม

เมื่อมีผู้เล่นหลายราย การแข่งขันดุเดือด ทั้งในเรื่องความแรงของเครื่องยนต์ อัตราการประหยัดน้ำมัน อุปกรณ์ความสะดวกสบายภายในรถ เทคโนโลยีต่างๆ แต่ละค่ายงัดกลยุทธ์กันมาแข่งแบบสู้ยิบตา เรียกได้ว่า ปิกอัพแต่ละรุ่นแต่ละโมเดลของแต่ละค่าย กว่าจะเปลี่ยนใหม่แบบแกะกล่องทั้งเครื่องยนต์และหน้าตา มีการไมเนอร์เชนจ์กันหลายรอบ เชนจ์กันแล้วเชนจ์กันอีก เชนจ์กันตั้งแต่ต้นโมเดลจนปลายโมเดล

Advertisement

ส่วนหนึ่งเพื่อปรับราคาจำหน่ายขึ้น เพราะหากปรับขึ้นโดยไม่มีเหตุผลในเรื่องการเพิ่มอุปกรณ์ อาจส่งผลทำให้ลูกค้าหาย มาร์เก็ตแชร์หรือส่วนแบ่งการตลาดหด ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในแวดวงธุรกิจยานยนต์เป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นผู้บริหารกระเด้งกระดอนหลุดจากเก้าอี้มานักต่อนักแล้ว

ดังนั้น จึงไม่แปลก หากในช่วงที่แต่ละค่ายยังไม่มีเทคโนโลยีเครื่องยนต์ หรือรูปร่างหน้าตา ก็พยายามหาวิธีสร้างความสดใหม่ให้กับรถยนต์ ด้วยการไมเนอร์เชนจ์เล็กๆ ใส่ชุดแต่งให้ตรงความต้องการคอปิกอัพ

Advertisement

สำหรับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก็เลือกงัดกลยุทธ์ขัดสีฉวีวรรณ ปิกอัพ นิสสัน นาวารา ให้ดูตื่นเต้นเร้าใจเช่นกัน โดยเปิดตัว นิสสัน นาวารา รุ่น นาวารา แบล๊ก อีดิชัน (Navara Black Edition) หวังจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่กำลังมองหารถปิกอัพแนวแข็งแกร่งดุดัน เป็นไปตามแผนเพิ่มความสดใหม่ นับตั้งแต่แนะนำรุ่นเจเนอเรชั่นที่ 3 ในปี พ.ศ.2557 ส่งออกไปกว่า 105 ประเทศทั่วโลก ถือว่าเป็นรถที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคนี้ ทั้งตลาดในประเทศไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย

สำหรับ นิสสัน นาวารา แบล๊ก อีดิชั่น ใหม่ มาพร้อมขุมพลังเดิมคือ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผันขนาด 2.5 ลิตร 163 แรงม้า แรงบิด 403 นิวตันเมตร

แต่ตกแต่งให้เข้มแตกต่างจากเดิม ด้วยชุดแต่งดุดันรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ แอลอีดี สีดำ กระจังหน้าสีดำ กรอบไฟตัดหมอกสีดำ กระจกมองข้างและมือจับประตูสีดำ บันไดข้างสีดำ กันชนหลังสีดำ และเสาอากาศแบบ ชาร์ก ฟิน (Shark Fin) หรือครีบปลาฉลาม สีดำ เหมือนกับรถหรูบางรุ่น สำหรับรุ่น ดับเบิล แค็บ

เสริมบุคลิกเฉพาะตัวที่ด้านข้างด้วยลวดลายกราฟิตี้ดีไซน์สีดำพร้อมสัญลักษณ์ Black Edition เฉพาะตัวด้วยล้ออัลลอยด์สีดำขนาด 18 นิ้ว ชุดแต่งซุ้มล้อสีดำขนาดใหญ่ ช่วงล่างใช้แชสซีส์เหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน เป็นจุดเด่นของ นาวารา ที่ได้รับกล่าวถึงในความแข็งแกร่ง มาพร้อมฟังก์ชั่นควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน แบล๊ก อีดิชั่น ทุกรุ่น

มีให้เลือกทั้งแบบคิงแค็บ และดับเบิลแค็บ มี 4 สี ได้แก่ สีแดง เบิร์นนิ่ง เรด สีส้ม สะวันนา ออเรนจ์ สีขาวไวท์ เพิร์ล เพิ่มราคาอีก 6,542 บาท และสีดำ แบล๊ก สตาร์ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นคิง แค็บ คาลิเบอร์ อี (King Cab Calibre E) เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 786,000 บาท ดับเบิล แค็บ คาลิเบอร์ อี (Double Cab Calibre E) เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 859,500 บาท และ ดับเบิล แค็บ คาลิเบอร์ อีแอล (Double Cab Calibre EL) เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ราคา 918,000 บาท

ถือว่ามาช่วยแต่งแต้ม เพิ่มสีสันให้กับค่ายนิสสัน ในยามที่กำลังหืดขึ้นคอกับการไล่ล่ายอดขายและมาร์เก็ตแชร์ ทั้งในตลาดปิกอัพและตลาดรถยนต์รวมในบ้านเราขณะนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image