พสกนิกรหลายหมื่นคน ร่วมใจเข้าคิวสักการะพระบรมศพ ท่ามกลางสายฝน

เมื่อวันที่ 17 กันยายน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศล เป็นวันที่ 284

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 00.45 น. ของวันที่ 17 กันยายน จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอกราบสักการะพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 61,003 คน รวม 318 วัน มี 10,715,555 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากมีการประกาศของสำนักพระราชวังปิดการสักการะพระบรมศพในวันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้ พสกนิกรทั้งกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ล้วนจูงบุตรหลานแห่แหนกันมาต่อแถวตั้งแต่ค่ำของวันที่ 16 กันยายน เพื่อจะได้เป็นลำดับต้นๆเมื่อเปิดให้เข้าคิว ส่วนใหญ่เดินทางมาในช่วงรุ่งเช้า ซึ่งปลายแถวอยู่บริเวณวงเวียนรักษาดินแดน และเลื่อนขึ้นมาอยู่บริเวณกระทรวงกลาโหมในช่วงสาย ท่ามกลางอากาศที่มืดครึ้มตลอดทั้งวัน ขณะที่ในช่วงเช้ามีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ประชาชนก็มิได้หวั่นยังคงกางร่มเข้าคิวท่ามกลางฝนโปรย โดยมีเจ้าหน้าที่จิตอาสาคอยเดินแจกร่มให้ใช้ชั่วคราว รวมถึงเดินเก็บขยะ และแจกอาหาร น้ำดื่มตลอดทั้งวัน บริเวณรอบข้างมีเต็นท์พยาบาลดูแลประชาชนที่เป็นลม หรือเจ็บป่วยตลอดทาง

Advertisement

นางลำดวน ทองผา อายุ 34 ปี ครูโรงเรียนเหล่าประชาวิทย์ จังหวัดมุกดาหาร พร้อมเพื่อนครู และนักเรียนที่เดินทางมาถึงตั้งแต่ช่วงตี 2 โดยต้องลงรถที่แยกคอกวัวก่อนจะเดินมาเข้าคิวที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เป็นตัวแทนกล่าวว่า ตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะมากราบสักการะในช่วงเดือนกันยายน ก่อนที่จะมีประกาศสำนักพระราชวังออกมา เพราะเห็นว่าเป็นช่วงที่ใกล้วันถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อได้ขึ้นไปกราบก็รู้สึกปลื้มใจที่ได้ทำหน้าที่แล้วครั้งหนึ่ง แม้จะต้องรอคิวนานถึง 8 ชั่วโมงก็ตาม ด้วยความที่เป็นคุณครูก็ได้นำเอาพระราชกรณียกิจต่างๆ พระราชจริยวัตร อย่างการใช้ดินสอปีละ 12 แท่ง หลอดยาสีฟัน หรือภาพการทรงงานที่ไม่ว่าไกลเพียงใด ทางยากลำบากแค่ไหนพระองค์ก็ทรงมุ่งมั่นจะช่วยเหลือประชาชน จึงได้นำมาสอนแก่เด็กนักเรียนทุกชั้น ในทุกเช้าจะให้นักเรียนศึกษาพระบรมราโชวาท ในโรงเรียนเองจะมีหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เพื่อให้เขานำคำสอนต่างๆไปใช้ได้จริง และเนื่องจากเป็นครูสอนภาษาไทยก็ได้นำเอาบทพระราชนิพนธ์อาทิ พระมหาชนก มาให้นักเรียนได้ศึกษา เพราะทุกบททุกถ้อยคำล้วนฉายให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพอันล้ำลึก ซึ่งเด็กรุ่นใหม่อาจไม่ค่อยได้ศึกษานัก จึงอยากให้เด็กๆได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้

นางลำดวน (ที่ 2 จากซ้าย)

นางสาวศรี น้อย อายุ 31 ปี หญิงเชื้อสายดาราอาง จากอ.แม่สาย จ.เชียงราย ชาวสวนกล้วยไม้ที่มาอาศัยอยู่ย่านบางใหญ่ กล่าวว่า มาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกเมื่อปลายปี 2559 ซึ่งเห็นว่ามีประกาศปิดให้ขึ้นกราบวันที่ 30 กันยายน จึงรวมตัวกันกับเพื่อนมาอีกสักครั้งหนึ่ง ได้เข้ากราบตั้งแต่ 9 โมงเช้า ที่ผ่านมาผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเคยเล่าว่า ในหลวงร.9 เคยเสด็จฯไปเยี่ยมคนในหมู่บ้านแต่ว่าตนไม่เคยได้รับเสด็จมาก่อน เพียงแต่ได้ติดตามข่าวจากโทรทัศน์ เห็นพระองค์เสด็จฯไปยังถิ่นทุรกันดารต่างๆ ทุกวันนี้น้อมนำคำสอนอย่างการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ให้ลูกหลานได้เรียนสูงๆเพื่อจะได้ไม่ลำบากมาใช้ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

Advertisement
นางศรี น้อย

ขณะที่เวลา 09.00 น. นายสมศักดิ์ จิตติมิต อายุ 58 ปี ท่องเที่ยวและกีฬา จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย นายสำเริง จิตต์อาจหาร อายุ 62 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ นำชาวสมุทรปราการจำนวน 999 คนปั่นจักรยานมาแสดงความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 บริเวณกำแพงพระบรมมหาราชวัง ร่วมกันกล่าวว่า ชาวสมุทรปราการต่างรู้สึกจงรักภักดีต่อในหลวง ร.9 ด้วยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากโครงการพระราชดำริมากมาย อาทิ สะพานภูมิพล ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เป็นต้น จึงอยากมาน้อมรำลึกและกราบสักการะเป็นครั้งสุดท้าย

“นักปั่นที่มาในวันนี้ล้วนเป็นลูกหลานสมุทรปราการ รวมตัวกันแต่เช้ามืดแล้วเริ่มต้นออกเดินทางจากคลองลัดโพธิ์เวลา 8 โมงเช้า ปั่นเป็นกลุ่มๆละ 50 คน มาถึงพระบรมมหาราชวังตอน 9 โมงเช้า และกราบสักการะอย่างพร้อมเพรียงกันอยู่บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ทุกคนอยากมาร่วมแสดงจงรักภักดี ซึ่งปกติกลุ่มนักปั่นจักรยานจะชักชวนกันทำกิจกรรมสร้างสรรค์อยู่เรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อีกทั้งสนองพระราชดำริของในหลวง ร.9 ที่ทรงมีสายพระเนตรยาวไกลในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ที่ทรงให้สร้างขึ้นในพื้นที่บางกระเจ้าก็กลายเป็นปอดของคนสมุทรปราการและคนกรุงเทพฯ ในเวลาต่อมา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้” นายสมศักดิ์ กล่าว

คณะนักปั่นจากจังหวัดสมุทรปราการ
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image