จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. จับกุมนายวีระชัย กาละภักดี อายุ 41 ปี อาจารย์ติวเตอร์สถาบันอักษรราม ย่านหัวหมาก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง หลังนายวีระชัย ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการหลอกลวงเรียกรับเงินจากผู้เสียหายโดยอ้างว่าตนเองสามารถพาฝากเข้าทำงานรับราชการตำรวจ ทหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ กฟผ.แต่ผู้ที่สนใจจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าวิ่งเต้นดำเนินการรายละประมาณ 5 แสนบาท ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เสียหายหลงเชื่อยอมจ่ายเงินค่าดำเนินการให้กับนายวีระชัย จำนวนหลายราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมเกือบ 30 ล้านบาท
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1.บก.ป. กล่าวว่า สำหรับการจับกุมนายวีระชัย กาละภักดี หรืออาจารย์วีระชัย มีชื่อในวงการว่า ติวเตอร์แทน เป็นการจับตามหมายจับของจ.กาฬสินธุ์ ในข้อหาฉ้อโกง เท่าที่ตรวจสอบทราบขณะนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายเข้าแจ้งความกับตำรวจท้องที่ กำลังจะมีการขออำนาจศาลออกหมายจับเพิ่มเติมอีก ส่วนผู้เสียหายหลายรายไม่เข้าแจ้งความนั้น เนื่องจากว่า หลังจากที่ติวเตอร์แทน รู้ตัวว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี จะติดต่อเคลียร์ค่าเสียหายให้ พร้อมกับให้ถอนแจ้งความ ทำให้ผู้เสียหายส่วนใหญ่ถอนแจ้งความไม่เอาเรื่อง จึงทำให้ติวเตอร์แทนสามารถหลอกลวงเหยื่อได้มาตลอดเกือบ 2 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก. 1 บก.ป. จับกุมตัว นายวีระชัย ผู้ต้องหารายนี้แล้วนั้น ชุดจับเตรียมขยายผลสืบหาเบาะแสและพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม โดยจะมีการประสานข้อมูลร่วมกันกับทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของคดีเดิม เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่านอกจากนายวีระชัย แล้วนั้นยังมีบุคคลรายอื่นๆเกี่ยวข้องและอยู่ร่วมในขบวนการกระทำความผิดดังกล่าวด้วยหรือไม่ โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการหารือและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขออำนาจศาลออกหมายค้นที่ทำการสถาบันอักษรราม ย่านหัวหมาก ของผู้ต้องหารายนี้ เพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ยังรับการติดต่อประสานจากทางผู้เสียหายอีกหลายรายซึ่งเคยถูกนายวีระชัย หลอกลวงฉ้อโกงในลักษณะดังกล่าว เพื่อขอเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายวีระชัยเพิ่มเติมอีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ภายหลังจากทางพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ รับการส่งมอบตัว นายวีระชัย ผู้ต้องหาจากทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อวานที่ผ่านมาแล้ว ทางด้าน พ.ต.อ.วัฒนา เกสรมาลา ผกก.สภ.คำม่วง สั่งทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ นายวีระชัย เกี่ยวกับคดีดังกล่าวต่อในทันที แต่ผู้ต้องหารายนี้กลับขอปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดในชั้นสอบสวน โดยขอไปให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามในช่วงระหว่างที่นายวีระชัยถูกควบคุมตัวเพื่อรอส่งตัวฝากขังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ผลัดแรกในวันพรุ่งนี้นั้นพบว่า นายวีระชัย มีสีหน้าแววตา ตึงเครียดและวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
อีกทั้งตลอดทั้งวันที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเดินทางมาเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับนายวีระชัย เพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก ซึ่งคดีส่วนใหญ่ที่ผู้เสียหายส่วนใหญ่เข้ามาแจ้งความนั้นจะเป็นคดีในลักษณะถูกหลอกเรียกรับเงินค่าดำเนินการฝากเข้ารับราชการตำรวจ ทหารและ พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆกระจายเข้าแจ้งความตามสถานีตำรวจท้องที่พื้นที่อื่นๆอีกหลายแห่งและคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้น่าจะมีการออกหมายจับนายวีระชัยในคดีฉ้อโกง เพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่า 10 คดี
นอกจากนี้จากข้อมูลที่ได้รับจากผู้เสียหายและจากการสืบสวน นั้นทางเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการต้มตุ๋นหลอกฝากเข้าทำงานของนายวีระชัยอีกหลายราย ซึ่งจากหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้พบผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยอยู่ร่วมในขบวนการดังกล่าว จำนวน 3 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งนายช่างองค์การบริหารส่วนตำบลโนนแหลมทอง จ.กาฬสินธุ์ หลังเจ้าหน้าที่พบพฤติการณ์ของบุคคลทั้ง 3 มีลักษณะต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่ในการจัดหาผู้เสียหายส่งต่อให้กับนายวีระชัย หัวหน้าขบวนการ ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง จะประสานเชิญตัวทั้ง 3 คนนี้มาให้ปากคำชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ภายในเร็ววันนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับนางร่วมจิต 1 ในผู้ต้องสงสัย 3 รายที่จะถูกออกหมายเรียกนั้น เคยมีประวัติถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คำม่วง และสภ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร จับกุมในคดีที่ได้เคยร่วมกับนายวีระชัย ฉ้อโกงผู้เสียหายในลักษณะฝากเข้าทำงานใน กฟผ.มาแล้ว 1 ครั้งเมื่อช่วง 2-3 เดือน ก่อนหน้านี้
