ลอบตัดไม้สงวนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด งง ห่างหน่วยพิทักษ์ป่าไม่กี่ร้อยเมตร

มอดไม้แอบตัดไม้สงวนในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด เป็นไม้หลุมพอ ไม้หายาก เชื่อตัดตามใบสั่งนายทุน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า นายกรณ์ จันทร์พุ่ม กำนัน ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายบุญชอบ ทองโอ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ได้นำผู้สื่อข่าวพร้อมด้วย พ.ต.ท.นรา ฉิมแสง สวป.สภ.ย่านตาขาว นายเสรี สุขรัตน์ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด นายสง นุ่นรัตน์ ปธ.องค์กรชุมชนบ้านลำพิกุล รวมทั้ง ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เดินเท้าท่ามกลางสายฝนไปตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ หลังจากรับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้หลุมพอขนาด 2 คนโอบ จำนวน 1 ต้น บริเวณป่าต้นน้ำ ภายในป่าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ในพื้นที่ ม.4 ต.นาชุมเห็ด ห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกสายรุ้ง เพียงแค่ 400 เมตรเท่านั้น ใช้เวลาในการเดินทางขึ้นภูเขาประมาณกว่า 15 นาที ทรามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก พบมีต้นหลุมพอ ขนาด 2 คนโอบ อายุกว่า 140-150 ปี เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 100 ซม. ถูกตัดโค่นลงมา เหลือแต่ตอ และมีไม้หลุมพอมีการตัดแล้วจำนวนกว่า 10 ท่อน ยังไม่มีการแปรรูปอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการสังเกตคาดว่าน่าจะถูกตัดมาแล้วประมาณเกือบ 1 เดือน

จากการสอบถาม นายกรณ์ จันทร์พุ่ม กำนัน ต.นาชุมเห็ด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า ไม้หลุมพอบนเทือกเขาบรรทัดต้นดังกล่าวนั้น ได้มีกลุ่มคนลักลอบตัดโค่นไป 1 ต้น ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดจำนวน 2 ต้น บนผืนป่าต้นน้ำแห่งนี้ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับ นายศิริพล พิพัฒน์รัตนเสรี นายอำเภอย่านตาขาว ปรากฏว่าพบจริง ซึ่งต่อมาได้ทราบว่า ทาง จนท.ป่าไม้ฯเข้าไปพบ และได้ทำการตรวจยึดไม้จำนวนหนึ่งไปเก็บไว้แล้ว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ได้หายไป ซึ่งเวลาผ่านมาเกือบ 1 เดือนแล้ว แต่ทำไมถึงไม่แจ้งรายงานมายังฝ่ายปกครองในพื้นที่ทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามาแจ้งภายหลังว่าการลักลอบตัดไม้ดังกล่าวนี้ชาวบ้านในพื้นที่เป็นคนทำ ทำให้ตนติดใจว่าทำไมถึงโยนบาปใส่ชาวบ้านเลย ชาวบ้านจะเข้าไปตัดได้ยังไง เพราะอยู่ห่างจากที่ทำการหน่วยเพียงแค่ 400 เมตร และเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุอยู่อย่างไร ถึงไม่ทราบเลยว่ามีการตัดไม้ ซึ่งในการตัดแล้วแปรรูปต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะเสร็จ รวมทั้งเสียงเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ต้องได้ยินอย่างแน่นอน และมีถนนทางออกทางเดียวที่จะเป็นทางที่ใช้สำหรับการลำเลียงไม้ขนาดใหญ่ออกไป โดยจะต้องผ่านบนถนนหน้าที่ทำการพิทักษ์ป่าน้ำตกสายรุ้ง ทำให้ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวในเรื่องนี้แน่นอน โดยหลังจากนี้จะทำการติดตามว่าได้การดำเนินการตามกฎหมายคืบหน้าถึงไหนแล้ว

ด้าน นายสง นุ่นรัตน์ อายุ 63 ปี ปธ.องค์กรชุมชนบ้านลำขนุน เล่าว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีการรวมกลุ่มเพื่อดูแลผืนป่าแห่งนี้หลายกลุ่ม รวมทั้งมีกฎกติกา ข้อระเบียบไว้อย่างชัดเจน และที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาก่อน เมื่อตนได้เห็นไม้ที่โดนตัดออกไป เกิดความสลดใจอย่างมาก เนื่องจากต้นหลุมพอที่โดนตัดอยู่ติดกับที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่ากันใกล้เหลือเกิน แล้วทำไมเจ้าหน้าที่ฯ ถึงไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลื้อยหรือรถที่ใช้ลำเลียงออกไปเลยหรือ และไม่ได้ดำเนินการแค่วันสองวันอีกต่างหาก ซึ่งมีการโยนบาปใส่ชาวบ้านว่าเป็นคนกระทำ ส่วนนี้ตนเองรับไม่ได้ และอย่างฝากไปยังสื่อมวลชน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันค้นหาความจริงให้เรื่องนี้กระจ่างขึ้นมาด้วยเพื่อปกป้องผืนป่าที่มีค่าแห่งนี้อยู่คู่แผ่นดินไทยไปให้ยืนยาว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image