ไร้เงา 2 เจ้าหน้าที่ 1669 ขอขมาศพเหยื่อสายด่วนฉุกเฉิน รพ.ประจวบฯ รอง ผอ.ยอมรับสั่งพักงานเหตุเครียดจัดไม่สามารถติดต่อได้
กรณีนายสันติสุข พรรณไวย์ หรือน้องลูกชิต อายุ 20 ปี ชาว บ้านน้ำโจน ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ บุตรชายของ พ.ต.ท.ราชันย์ พรรณไวย์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมือง จ.ภูเก็ต เสียชีวิตที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการติดเชื้อในกระแสเลือดและป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย ภายหลังญาติโทรศัพท์แจ้งหมายเลขสายด่วนฉุกเฉิน 1669 หรือ ศูนย์สั่งการ ร.พ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อแจ้งอาการป่วย แต่ได้รับตำตอบจากเจ้าหน้าที่ให้ผู้ป่วยกินยาพาราฯไปก่อน จากนั้นญาติได้โทรไปที่ 1669 อีกครั้งเนื่องจากผู้ป่วยมีอาการช๊อค เกร็งหายใจไม่ออก กระทั่งเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 17 กันยายน นายแพทย์ทรงฉัตร ศิริโยธิพันธ์ รองผู้อำนวยการ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ นายแพทย์จุมพล ฟูเจริญ นายแพทย์ประจำ รพ. พร้อมคณะเจ้าหน้าจากสำนักพัฒนาบริการ เจ้าหน้าที่ศูนย์สั่งการ 1669 ได้เดินทางไปเคารพศพนายสันติสุข ที่วัดวังไทรติ่ง ต.อ่าวน้อย ในการสวดพระอภิธรรมศพคืนสุดท้าย โดยไม่มี 2 เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์สั่งการซึ่งเป็นพนักงานจ้าง และ ข้าราชการ ที่มีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ในคืนเกิดเหตุเดินทางไปร่วมขอขมาศพ ตามที่ญาติได้เรียกร้องให้เดินทางมาร่วมงานโดยมีการรับรองความปลอดภัย
ต่อมานายแพทย์ทรงฉัตรได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้นางสุรินทร์ พรรณไวย์ อายุ 72 ปี ย่าของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้นางสุรินทร์ได้แสดงความเสียใจถึงกับหลั่งน้ำตา เมื่อทราบว่า 2 เจ้าหน้าที่ 1669 ไม่ได้เดินทางไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพคืนสุดท้ายและขมาศพเนื่องจากเลี้ยงดูนายสันติสุขตั้งแต่เด็กจึงมีความรักความผูกพันธเป็นอย่างมาก จากนั้นนายแพทย์ทรงฉัตร แจ้งให้ทราบว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายมีอาการเครียดอย่างหนัก หลังจากถูกโลกโซเชี่ยลวิจารณ์อย่างรุนแรง จึงให้หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวด้วยการอนุญาตให้ลาป่วย และ ได้สั่งให้ติดต่อโดยด่วน เพื่อให้เดินทางไปเคารพก่อนการฌาปนกิจในเวลา 15.00 น. วันที่ 18 กันยายนนี้
นายแพทย์ทรงฉัตร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายได้ แต่ยืนยันว่าทั้ง 2 รายเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานดี แต่หลังเกิดเหตุมีความเครียดพอสมควร เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับการทำหน้าที่รับโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินเนื่องจากไม่มีสมาธิ และอาจทำให้เกิดความสูญเสียกับระบบราชการมากยิ่งขึ้น และยังไม่มีการประเมินว่าจะกลับมาทำงานได้เมื่อใด แต่คงไม่ต้องให้อยู่ในความดูแลของจิตแพทย์ แต่ให้พยาบาลจิตเวชให้คำปรึกษาพูดคุย หากมาทำงานก็ต้องประเมินการทำงาน ซึ่งขณะนี้การปฏิบัติงานแพทย์และพยาบาลทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่มีความกังวลว่าประชาชนอาจไม่มั่นใจการทำงานของโรงพยาบาล และหากประชาชนไม่ศรัทธาก็จะทำให้เจ้าหน้าที่รู้สึกไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งนี้หลังจากมีปัญหากระทรวงสาธารณสุขได้สั่งงดการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่โรงพยาบาลต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน
นายอภิเชษฐ์ พรรณไวย์ อายุ 41 ปี อาชีพทนายความ อาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สิ่งที่ยอมรับไม่ได้คือเจ้าหน้าที่สายด่วน 1669 ถามว่าดึกแล้วโทรมาทำไม และการทำงานไม่มีความรวดเร็ว และมองว่าชีวิตคนไม่มีค่า และขอให้ปรับปรุง ที่ผ่านมาตนไม่ได้ได้เรียกร้องค่าเสียหาย แต่ขอให้เจ้าหน้าที่มาขอขอมาศพ เพราะพูดจาบ่ายเบี่ยงที่จะส่งรถกู้ชีพมารับผู้ป่วย และไม่ต้องการให้ประชาชนรายอื่นมีปัญหาในลักษณะนี้ หากโรงพยาบาลฟังเสียงสะท้อนจากกลุ่ม “ เฟซบุ๊ค ประจวบคีรีขันธ์ “ที่มีสมาชิกมากกว่า 50,000 คนก็คงทราบดีว่ามีการวิจารณ์เรื่องนี้อย่างไร และส่วนตัวต้องการให้เจ้าหน้าที่ 1669 เดินทางมาขอขมาศพ เพื่อให้สังคมโซเชี่ยลเห็นว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมีความจริงใจที่จะเดินทางมาเคารพศพ และ หากพ้นกำหนดการฌาปนกิจในวันที่ 18 กันยายน แล้ว ไม่มาร่วมจุดศพก็จะต้องปรึกษาหลายฝ่ายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และจะเป็นปัญหาสะท้อนกลับไปที่การทำงานของโรงพยาบาลอย่างแน่นอน
