ปปง.เตือนอย่าหลงเชื่อ! แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้าง จนท.หลอกโอนเงินระบาด ย้ำมีสติ ห้ามโอน

พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล

เมื่อวันที่ 19 กันยายน พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ปปง.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. หลอกลวงผู้เสียหายว่าถูกอายัดบัญชีเพราะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดยาเสพติด เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินแล้วหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง. หลอกประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อให้โอนเงิน ความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท กรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง. หลอกประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเพื่อให้โอนเงิน ความเสียหาย 1.3 ล้านบาท หรือล่าสุด กรณีของ ดร.รัชดา ธนาดิเรก อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่ามีมิจฉาชีพโทรมาอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง. บอกว่ามีการฟอกเงินผ่านบัญชี แต่พอบอกว่าเป็นนักการเมือง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ตัดสายไป

“ขอแจ้งเตือนว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ เปิดเซิร์ฟเวอร์ใช้โทรศัพท์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตหรือวีโอไอพีหลอกลวงผู้เสียหาย โดยโทรศัพท์ในระบบวีโอไอพีสามารถกำหนดหมายเลขโทรเข้าให้เป็นเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยราชการใดก็ได้ ดังนั้น จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อ และขอให้คิดเสมอว่าระบบราชการจะไม่ติดต่อประชาชนทางโทรศัพท์ และจะไม่ให้ประชาชนถอนเงินออกจากบัญชีตัวเองเพื่อโอนเข้าบัญชีอื่น” เลขาธิการ ปปง.กล่าว

พล.ต.อ.ชัยยะกล่าวด้วยว่า ปปง.มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชนที่อาจจะพบเหตุการณ์เช่นนี้ในชีวิตประจำวัน จึงดำเนินการแจ้งเตือนอย่างสม่ำเสมอ แต่เนื่องจากปัจจุบันมีรูปแบบการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินผ่านอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก และถูกปรับเปลี่ยนไปให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น “ขอให้ประชาชนที่ได้รับสายมิจฉาชีพ ต้องมีสติ ไม่ตกใจ และไม่โอนเงิน ให้กับมิจฉาชีพโดยเด็ดขาด”

พล.ต.อ.ชัยยะกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังต้องระมัดระวังเรื่องการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อซื้อขายบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มด้วย เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวอาจเป็นรูปแบบหนึ่งของการหลอกลวงให้โอนเงิน หรืออาจเข้าข่ายการรับจ้างเปิดบัญชี สำนักงาน ปปง. จึงขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ จนนำไปสู่การซื้อหรือขายบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม เพราะทั้งผู้ที่จ้างให้เปิดบัญชีและผู้รับจ้างเปิดบัญชี อาจถูกดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน และถึงที่สุดเช่นกัน มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท

อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยใดที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือสงสัยว่าอาจจะโดนหลอกลวงให้โอนเงิน สามารถโทรสอบถามได้ที่โทรศัพท์สายด่วน ปปง. 1710 และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าสำนักงาน ปปง. จะใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในการดำเนินการในคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอย่างรอบคอบรัดกุม บนพื้นฐานของความยุติธรรม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image