ยูนิเซฟชี้เด็ก 3 จว.ใต้เผชิญอุปสรรคมากไปในการเติบโต

ภาพประกอบ

เมื่อวันที่ 19 กันยายน ยูนิเซฟร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยแพร่ผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งพบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีในจังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา มีภาวะเตี้ยแคระแกร็น (ความสูงต่ำกว่าเกณฑ์อายุ) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ โดยในจังหวัดนราธิวาสมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่มีภาวะเตี้ยแคระแกร็นสูงถึงร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 11 ในขณะที่จังหวัดยะลา ปัตตานี สตูล และสงขลา อัตรานี้อยู่ที่ร้อยละ 21 ร้อยละ 19 ร้อยละ 17 และร้อยละ 13 ตามลำดับ

นอกจากนี้ อัตราของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่มีภาวะผอมแห้งหรือภาวะทุพโภชนาการเฉียบพลันในจังหวัดชายแดนใต้ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศเช่นกัน อัตรานี้สูงสุดในจังหวัดปัตตานีเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ในชายแดนใต้ คือร้อยละ 13 ตามด้วยจังหวัดนราธิวาสที่ร้อยละ 11 ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 5

ผลสำรวจยังชี้ว่าการได้รับวัคซีนของเด็กยังคงเป็นปัญหาสำคัญในจังหวัดชายแดนใต้  ในขณะที่ทั่วประเทศไทยมีเด็กอายุ 12-23 เดือนร้อยละ 72 ได้รับภูมิคุ้มกันครบก่อนอายุ 1 ปี  แต่สัดส่วนนี้ต่ำมากในจังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี ซึ่งอยู่ที่เพียงร้อยละ 37 ร้อยละ 39 และร้อยละ 40 ตามลำดับ

ขณะที่ เยาวชนอายุ 15-24 ปีในจังหวัดชายแดนใต้ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตนเองจากเอชไอวี โดยในจังหวัดนราธิวาสมีเยาวชนชายเพียงร้อยละ 16 และเยาวชนหญิงเพียงร้อยละ 21 ที่สามารถตอบคำถามได้ถูกต้องเกี่ยวกับการแพร่เชื้อเอชไอวี ในขณะที่จังหวัดปัตตานี เยาวชนชายร้อยละ 20 และเยาวชนหญิงร้อยละ 25 ตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระดับความรู้ความเข้าใจของเยาวชนในจังหวัดเหล่านี้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 45 สำหรับเยาวชนชาย และร้อยละ 46 สำหรับเยาวชนหญิง

Advertisement

โดย นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหานี้น่าเป็นห่วงมาก เพราะมันหมายความว่า เด็กที่อยู่ในจังหวัดเหล่านี้ไม่ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน การขาดสารอาหารทำให้การเจริญเติบโตทางร่างกายและการพัฒนาสมองของเด็กต้องหยุดชะงัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ ทั้งหมดนี้ส่งผลเสียในระยะยาวต่อตัวเด็กเองและสังคมโดยรวม

“เด็กที่อาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดนใต้ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากเกินไปในการเติบโตขึ้น  เราต้องพยายามมากขึ้นในการช่วยให้เด็กๆ เหล่านี้เติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการต่างๆ และสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งนี้ ข้อมูลจากการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีรายจังหวัดถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะช่วยวางแผนการทำงาน และจัดสรรทรัพยากรให้เพียงพอเพื่อเข้าถึงเด็กและสตรีที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด” นายโธมัสกล่าว

 

Advertisement
โธมัส ดาวิน

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image