เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 กันยายน กองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ จัดงานแถลงข่าวและสัมภาษณ์ มิลค์ – ภัทลดา กุลภัคธนภัทร์ รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016 ตัวแทนประเทศไทยที่จะไปประกวดเวทีมิสเวิลด์ 2017 ที่เมืองซานย่า สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงความพร้อมและเปิดตัวชุดต่างๆที่จะนำไปประกวด ณ ชั้น 9 อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ โดยมีเฟร้นฟราย-ธันยชนก มูลนิลตา มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 รับหน้าที่พิธีกร
โดย มิลค์ – ภัทลดา เปิดตัวด้วยชุดประจำชาติ ซึ่งปีนี้เป็นชุดไทยจักรี ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้เพื่อเป็นรูปแบบของชุดประจำชาติไทย ซึ่งจะใช้สวมใส่วันประมูลการกุศล ได้รับการออกแบบและตัดเย็บโดยห้องเสื้อ เมอเรียด แกรนด์มอนด์ ออกแบบให้มีความโดดเด่นที่ลายกลีบดอกพิกุลทอง ที่เป็นดอกไม้ไทยที่มีกลิ่นหอม จึงจำลองลายดอกพิกุลมาประยุกต์ผสมกับลายไทยปักดิ้นทองลงบนผ้าไหม ปักทองเหลือง คริสตัล และลูกปัด เป็นลวดลายบนตัวทั้งชุด บ่งบอกถึงความงดงามของดอกไม้ไทย ส่วนโทนสีของชุดเป็นสีม่วงเปลือกมังคุด ซึ่งมังคุดก็คือราชินีผลไม้ไทย และเมื่อสีม่วงเปลือกมังคุดผสมผสานกับดอกพิกุลทอง ทำให้ชุดไทยจักรีชุดนี้บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน มีพลังดึงดูดความสนใจจากผู้ที่อยู่รอบข้าง
ต่อจากนั้น ตัวแทนประเทศไทย ได้อวดโฉมต่อสื่อมวลชนอีกครั้งด้วยชุดทับทิมสยาม ซึ่งใช้เป็นชุดราตรีรอบตัดสิน ออกแบบและตัดเย็บโดย ห้องเสื้ออีโมชั่นส์ โดยตัวชุดใช้ผ้าซีทรูเพื่อให้ความรู้สึกเบาไม่หนักทึบ ปักด้วยลูกปัดสีแดงขนาดเล็กคละแบบ ที่จะเล่นแสงระยิบระยับบนเวทีการประกวด ซึ่งลวดลายที่ปักเปรียบเสมือนพลังของคนไทยทั้งชาติที่ไหลมาหล่อรวมหลอมใจเป็นหนึ่งบนชุดเดียวกัน อีกทั้งเพิ่มความหรูหราด้วยสุ่มสีแดงวิจิตร ไล่ระดับเพิ่มเลเยอร์ให้ดูพริ้วไหวเมื่อเดินย่างกรายอยู่บนเวที
นอกจากนี้ ภัทลดา ยังได้แสดงโชว์ความสามารถพิเศษ เชิดหุ่นกระบอกไทย ซึ่งจะใช้ในรอบมิสเวิลด์ ทาเล้นต์ ให้กับสื่อมวลชนได้ชมเป็นตัวอย่างด้วย และได้โชว์ชุดราตรียาวสีทอง ที่จะใช้ในการเก็บตัวครั้งนี้ด้วย
โดยมิลค์ เปิดเผยว่า ตอนนี้เรียกได้ว่าควาพร้อม 100% แล้ว ในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้เตรียมพร้อมร่างกาย และฝึกภาษาอังกฤษฉบับเร่งด่วน ปรับบุคลิกภาพใหม่ จากที่ติดภาพลักษณ์นางแบบ เดิน ยืน พูดแข็งมากเกินไป ก็ได้ปรับให้ดูซอฟท์มากขึ้น ที่สำคัญคือศึกษากฎใหม่ของกองประกวด ที่จะแบ่งทีมออกเป็นทีมละ 6 คน เพื่อคัดที่ 1 เข้ารอบโดยอัตโนมัติ ทำให้ต้องเตรียมตัว ปรึกษารุ่นพี่นางงามเป็นพิเศษ นอกจากนั้นก็ยังเข้าร่วมการแข่งขันทุกฟาสต์แทร็กที่จะทำให้เข้ารอบอัตโนมัติ อย่างรอบการเต้นก็ได้นำเอา เซิ้งกระติ๊บไปโชว์ เน้นความสนุกสนาน ส่วนรอบนางงามจิตกุศล ก็ได้ทำโครงการยาเหลือใช้ ต่อลมหายใจได้ โดยนำยาไปมอบให้แก่โรงพยาบาลอุ้งผาง ไปเล่นกับเด็กๆที่นั่น ซึ่งห่างไกลจากชุมชนมากต้องเดินทางไป 4 วัน เมื่อไปถึงเด็กๆก็ต้อนรับเราเป็นอย่างดี ทำให้เรารู้สึกว่าอยากช่วยเหลือ และยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมาก ขณะที่รอบความสามารถพิเศษ ได้ไปฝึกเชิดหุ่นกระบอก ซึ่งยากกว่าที่คิดมาก ใช้เวลาฝึกซ้อมหลายเดือน โดยจะพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดที่นำวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่
“ตอนนี้เรียกว่าไม่มีความกังวล เพราะเตรียมความพร้อมอย่างหนัก อาจมีคิดว่าจะลืม จะพลาดอะไรไปหรือเปล่า แต่อยากทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เสียใจทีหลัง ครั้งนี้อยากจะนำเอาวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่มากที่สุด อย่างที่เคยไปประกวดนางแบบที่เสิ่นเจิ้น ก็ไหว้ทุกครั้ง ทำให้คนสนใจว่าทำไมเราต้องไหว้ ก็ถือเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งครั้งนี้มิลค์จะนำเอาความงามแบบไทย หน้าไทย วัฒนธรรมไทย ไปทำหน้าที่ตัวแทนประเทศให้ดีที่สุดเพื่อคนไทย” มิลค์ เผย
สำหรับปีนี้ กองประกวดมิสเวิลด์ ได้เปลี่ยนกติกาเป็นแบบเฮดทูเฮด โดยจะจับสลากแบ่งกลุ่มเป็น 20 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน จากนั้นก็แข่งขันกันเองภายในกลุ่มเพื่อให้ได้ผู้ชนะของกลุ่ม กลุ่มละ 1 คน รวมทั้งหมด 20 คน ก่อนที่กรรมการจะคัดเลือกอีก 15 คน และผู้ชนะรางวัลพิเศษฟาสแทร็ค (Fast Tracks) เข้ารอบแบบอัตโนมัติอีก 5 คน รวมผู้เข้ารอบทั้งหมด 40 คน โดยในปีนี้ ตัวแทนจากไทยจะเข้าร่วมแข่งขันในรอบรางวัลพิเศษทั้ง 5 การประกวด ได้แก่ 1.Miss World Beauty with a Purpose โครงการ “ยาเหลือใช้ ต่อลมหายใจได้” ,2.Miss World fashion- Top Model ,3.Miss World Multimedia Award ,4.Miss World Top Sports และ 5.Miss World Talent ได้แก่ การแสดงเชิดหุ่นกระบอก
ทั้งนี้ มิลค์-ภัทลดา จะออกเดินทางในวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคมนี้ ด้วยสายการบินแอร์ เอเชีย เที่ยวบิน FD 530 กรุงเทพฯ-กวางโจว จากสนามบินดอนเมือง เวลา 19.10 น.
