เอชทีซี ยู 11 เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจากเอชทีซี ที่มาพร้อมกับลูกเล่นและสเปกชั้นเลิศที่ดึงดูดใจอยู่ไม่น้อย โดยหน้าจอของเครื่องเป็น SuperLCD5 ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Quad-HD แรม 6 GB รอม 128 GB รองรับไมโครเอสดีสูงสุดถึง 2 TB กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0 กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล f/1.7
ด้านหน้าเครื่อง มาพร้อมกับกระจกหน้าจอ Gorilla Glass 5 แบบ 3D
เป็นมือถือที่แปลกตรงที่ว่า กล้องหน้าให้ความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล แต่กล้องหลังกลับให้มา 12 ล้านพิกเซลเท่านั้น เท่ากับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจคนรักการเซลฟี่ ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมาทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีทีเดียว โดยกล้องหน้ามีทั้งเซลฟี่แบบธรรมดา หรือจะเซลฟี่แบบพาโนรามาก็ได้ หรือจะวิดีโอเซลฟี่ก็ยังได้
ยิ่งได้เล่นกล้องกับฟีเจอร์ “บีบ” เพื่อสั่งงาน ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่
ก็อาจจะดูแปลกนิดนึงสำหรับการสั่งงานด้วยการบีบ ซึ่งแรกเริ่มก็ต้องตั้งค่าและศึกษาเรื่องการบีบกันก่อนว่าเราจะต้องบีบตรงไหน บีบแรงแค่ไหน ที่เรียกว่าเป็นฟีเจอร์ Edge Sense ซึ่งสามารถตั้งค่าแรงบีบได้ว่าจะบีบเพื่อทำอะไร เนื่องจากตัวเครื่องจะรองรับแรงบีบได้หลายระดับ เราจะสามารถตั้งค่าเพื่อเข้าสู่แอพพลิเคชั่นหรือสั่งการทางลัดอื่นๆ เช่น บีบเพื่อใช้งานกล้อง บีบเพื่อเรียกใช้ Voice Assistant บีบเพื่อเข้าแอพพลิเคชั่นต่างๆ บีบเพื่อแคปหน้าจอ บีบเพื่อเปิด-ปิดไฟฉาย บีบเพื่อบันทึกเสียง ซึ่งเราไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งค่าแรงบีบให้แรงเลย จะตั้งให้บีบเบาๆ เพื่อเปิดการใช้งานต่างๆ ก็ได้ เพียงแต่ว่าถ้าบีบเบาไป เวลาที่เราหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเผลอไปบีบด้านข้างเครื่องเข้า ก็อาจจะเกิดอาการ “ลั่น” ทำให้เครื่องเข้าฟีเจอร์ที่เราตั้งเอาไว้ก็ได้ เอาว่าตั้งค่าให้แรงพอสมควรก็กำลังดี
หลังจากตั้งค่าเสร็จ ก็เริ่มเล่นกันได้เลย
ฟีเจอร์ที่จะเอามาบอกเล่าและอยากลองเล่นก็คือ กล้อง ซึ่งการบีบเครื่องแทนการบีบชัตเตอร์ ทำให้การถ่ายภาพจากกล้องหน้าง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องห่วงกับการกดปุ่มชัตเตอร์ที่หน้าจอหรือตัวเครื่องแต่อย่างใด
เวลาบีบ เราก็จะบีบบริเวณด้านข้างของเครื่อง เพื่อแทนการกดชัตเตอร์ แรกๆ ก็อาจจะมีมือสั่นกันนิดหน่อย เพราะไม่ชินกับการบีบตัวเครื่อง ภาพที่ได้ก็อาจจะสั่นเล็กน้อย ทำให้ภาพสั่นไหวได้ แต่ถ้าใช้ไปสักระยะหนึ่งแล้ว การบีบเพื่อถ่ายก็จะง่ายขึ้นและรู้เลยว่าสนุกและสะดวกกว่าการกดชัตเตอร์จากหน้าจอ
ที่ดูจะยังไม่ค่อยปลื้ม ก็น่าจะเป็นเรื่องของวัสดุด้านหลังของเครื่องที่เป็นกระจก ที่ดูครั้งแรกก็จะรู้สึกว่าสวยหรูดูดี หากเช็ดให้สะอาดๆ ก็จะดูใสๆ สวยดี แต่พอใช้งานไปสักระยะ จะเกิดลายนิ้วมือขึ้น ก็ดูจะสกปรกหน่อย ลายนิ้วมือดูเปื้อนไปหมด
แต่ในกล่องก็มีเคสยางมาให้ด้วย ใส่เข้าไปก็ช่วยลดรอยลายนิ้วมือลงได้บ้าง หรือถ้าใครไม่อยากใส่เคส อยากโชว์ความเงางามของด้านหลังเครื่องแบบไม่ต้องใส่เคส ก็ต้องขยันเช็ดหน่อย ใช้ผ้าที่เขาให้มานั่นแหละ เช็ดเอาก็สะอาดแล้ว
รุ่นนี้รองรับการสแกนลายนิ้วมือด้วย ซึ่งถือว่าการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกรวดเร็วใช้ได้ทีเดียว ก็ใช้ตรงปุ่มโฮมสำหรับปลดล็อกหน้าจอ และมีความสามารถในการกันฝุ่นกันน้ำ ตามมาตรฐาน IP67 คือสามารถลงน้ำได้ระดับความลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0 โดยรุ่นนี้ใช้พอร์ตยูเอสบี ไทป์-ซี แล้ว
และที่ชอบคือเรื่องของความแรงของเครื่อง ที่ให้แรมมาถึง 6 GB รอมก็ให้มาถึง 128 GB แทบไม่ต้องเพิ่มอะไรเลย เรียกได้ว่าสเปกสูงจริงๆ เล่นเกมแรงๆ ได้ดีแบบไม่มีสะดุด น่าจะได้ใจคอเกมอยู่ไม่น้อย
โดยรวมรูปร่างหน้าตาก็ถือว่าดูสวยหรูหราดี โดยเฉพาะฝาหลังที่มีความมันวาว ผสานกับการมีฟีเจอร์เด่นๆ อย่างเรื่องของการบีบ หรือแม้แต่สเปกของเครื่องที่ถือว่าแรงดีทีเดียว รวมทั้งกล้องขั้นเทพ ด้วยราคาที่ประมาณสองหมื่นหกพันบาท ก็เป็นราคาที่แพงอยู่ แต่ถ้าดูจากสเปกและฟีเจอร์ต่างๆ แล้ว ก็ถือว่าพอรับได้ โดยเฉพาะแฟนๆ ของเอชทีซีที่เป็นแฟนเหนียวแน่น สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงอย่างนี้จะปล่อยให้พลาดได้อย่างไร
