ผอ.สมาคมฯยาสูบ แฉรัฐลักไก่รีดภาษีบุหรี่ 2 เด้ง ชี้ของเถื่อนทะลัก รัฐเสียรายได้เอง

ผอ.สมาคมฯยาสูบโวย รัฐลักไก่รีดภาษีบุหรี่ 2 เด้ง แฉบีบร้านค้าทุกทาง ทำพ่อค้าของเถื่อนได้ประโยชน์

เมื่อวันที่ 20 กันยายน นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวถึงภาระที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ค้าและผู้ซื้อ ภายหลังจากได้มีการประกาศอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบใหม่ในราชกิจจานุเบกษามีผลตั้งแต่ 16 กันยายนเป็นต้นไป ว่าอัตราภาษีใหม่จะทำให้เกิดภาระภาษีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าบุหรี่ถูกหรือแพง สวนทางกับคำสัญญาของรัฐที่จะไม่สร้างภาระเพิ่มให้ประชาชน แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าบริษัทบุหรี่จะมีการปรับราคาหรือไม่อย่างไร โดยคาดว่าสัปดาห์นี้คงมีความชัดเจนในเรื่องราคาที่ผู้ประกอบการจะแจ้งให้ร้านค้าทราบ และจะรู้ว่าภาระต่อผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นแค่ไหน นอกจากภาระภาษีสรรพสามิตที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีการเรียกเก็บเงินภาษีเพิ่มเพื่อราชการส่วนท้องถิ่น หรือที่เรียกกันว่า ภาษีเพื่อมหาดไทย จากยาสูบในอัตราร้อยละ 10 ของภาษีสรรพสามิต ทั้งนี้ ภาษีเพื่อมหาดไทยเป็นภาษีที่สินค้าสรรพสามิตอื่นๆ เสียกันอยู่แล้ว แต่เพิ่งจะมีการเก็บจากยาสูบภายในกฎหมายใหม่ เรียกว่าตอนนี้ยาสูบโดนรีดภาษีเพิ่ม 2 เด้งอีกด้วย

นางวราภรณ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เพิ่งมีการขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ไปจนชนเพดานเดิม ทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นร้อยละ 25-30 และทำให้เกิดการบิดเบือนในตลาดบุหรี่ จนมีสัดส่วนบุหรี่ราคาถูกที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่บุหรี่หนีภาษีก็ทะลักเข้ามาตามพื้นที่ชายแดนมากขึ้น ภาระอีกด้านที่จะเพิ่มขึ้นแน่นอนกับร้านค้าบุหรี่ คือ ค่าธรรมเนียมในอนุญาตขายที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยใบอนุญาตขายปลีกสำหรับร้านค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว จากปัจจุบันปีละ 40 บาท เป็นปีละ 100 บาท ขณะที่ใบอนุญาตขายปลีกสำหรับร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะอยู่ที่ปีละ 500 บาท ใบอนุญาตที่มีอยู่ยังคงใช้ได้ต่อจนหมดอายุใบอนุญาต แล้วเมื่อมาขอใบอนุญาตใหม่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในอัตราใหม่ที่เพิ่มขึ้น ผนวกกับแรงกดดันจาก พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบใหม่ที่มีผลไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 60 ที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดเรื่องห้ามแบ่งขายและข้อห้ามแสดงสินค้า ก็ยิ่งทำให้ร้านค้ารายเล็กรายย่อยถูกบีบทุกทาง ขณะที่พ่อค้าของเถื่อนเป็นฝ่ายได้ประโยชน์ แต่รัฐกลับบอกว่าต้องการให้เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง ฟังดูเป็นนโยบายที่ย้อนแย้ง

“ปัญหาบุหรี่เถื่อนจะเลวร้ายลงทุกครั้งที่ขึ้นภาษี ในครั้งนี้เชื่อว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงไปอีก บรรดาร้านค้าปลีกเล็กๆ ต้องเดือดร้อนตามไปด้วยเพราะขายแข่งกับของหนีภาษีราคาถูกไม่ไหว โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน ตอนนี้ในภาคใต้บุหรี่เถื่อนขายกันซองละ 25-30 บาท ถ้าราคาบุหรี่ถูกกฎหมายปรับเพิ่มขึ้นย่อมสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มพ่อค้าบุหรี่เถื่อนเพิ่มขึ้นตาม รัฐเองก็ต้องสูญเสียรายได้ภาษีที่ควรจะเก็บได้ด้วย” นางวราภรณ์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image