ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
---|
จะพัฒนาอยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เทียบชั้นเมืองโตเกียว หรือเกียวโตเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น
นายกฯ พูดที่อยุธยาคราวประชุม ครม. สัญจรในมหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนครศรีอยุธยา อังคาร 19 กันยายน 2560
ผมได้ยินแว่วๆ จากโทรทัศน์ดิจิทัลหลายช่อง มีเนื้อความคล้ายๆ กัน แต่ไม่มั่นใจตัวเองว่าจะจำได้ไม่คลาดเคลื่อน ขณะเดียวกันก็ไม่เคยรู้เห็นหน้าตาไม่ว่าโตเกียวหรือเกียวโต เท่าที่เคยเห็นก็แค่ขนมโตเกียวที่ขายอยู่ข้างถนน กทม. และตลาดนัดบ้านนอก
บ้านเมืองยุคอยุธยา
เมืองต้องมีบ้าน เพราะชีวิตรอบเมืองขึ้นอยู่กับบ้านซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรและอาหารที่คนบ้านขนย้ายและผลิตเลี้ยงคนเมือง
เมืองอยุธยาก็ต้องมีบ้าน พบหลักฐานจำนวนมากในเอกสารประวัติศาสตร์ เช่น คำให้การขุนหลวงหาวัด หรือเอกสารจากหอหลวง (แม้แต่งสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ แต่แต่งโดยคนจากยุคอยุธยา) ฯลฯ เช่น
ตลาดในเมือง มีมากกว่า 60 แห่ง
ตลาดนอกเมือง มีทั้งตลาดน้ำและตลาดบกมากกว่า 30 แห่ง
ย่านผลิตและชุมชน อยู่รอบนอกเกาะเมือง มีราว 52 แห่ง
ขณะเดียวกันบ้านก็ต้องพึ่งพาเมือง ซึ่งมีความมั่งคั่งด้านเทคโนโลยีและสิ่งก้าวหน้าอื่นๆ
คลองและถนน
ในเกาะเมืองอยุธยามีคลองขุดเป็นเส้นทางคมนาคม ตัดไขว้ไปมาเหมือนตารางบนกระดานหมากรุก แล้วมีสะพานข้ามคลองมีมากนับไม่ถ้วน
สองฝั่งคลองทุกสายมีถนนคนเดินมากกว่า 50 สาย และเป็นทางยวดยานพาหนะร่วมกัน เช่น เกวียน, ช้างม้า, วัวควาย ฯลฯ
มีทั้งถนนปูอิฐตะแคง และถนนพูนดินอัดแน่น บางแห่งโรยหน้าด้วยอิฐหักกากปูน
ขนมโตเกียว
อยุธยามรดกโลก ที่เห็นๆ ทุกวันนี้ มีแต่ซากวัดกับซากวัง โดยไม่มีวิถีชีวิตบ้านเมืองของผู้คนในประวัติศาสตร์ 417 ปี
ตราบเท่าที่รัฐราชการไทยมีอำนาจวาสนา อยุธยาไม่มีวันเทียบชั้นเกียวโต เป็นได้แค่ขนมโตเกียว