เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 ก.ย. นายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 จำนวน 5 นาย พร้อมอุปกรณ์ไปช่วยกันค้นหาแหวนและสร้อยคอทองคำ ที่นักท่องเที่ยวทำหล่นลงไปภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ พื้นที่ หมู่ 5 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ภายหลังจากช่วงเวลาบ่ายของวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือดังกล่าว ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่หน้าแพพักชื่อดังแห่งหนึ่งที่บริเวณเกาะกลางน้ำ และได้พบกับ นายสุริยะ จาริไพบูรณ์ อายุ 30 ปี ผู้เสียหายพร้อมครอบครัวรออยู่ด้วยอาการตกใจ จึงได้สอบถามรายละเอียดพร้อมกับวางแผนในการค้นหาเพื่อความปลอดภัยของทีมงานค้นหา เนื่องจากจุดที่ทองคำตกลงไปค่อนข้างลึก โดยทีมเจ้าหน้าที่เริ่มดำน้ำค้นหาตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 15 ก.ย.จนถึงวันที่ 19 ก.ย. แต่ก็ไม่พบ ซึ่ง นายสุริยะ และครอบครัว ต่างหมดหวังที่จะได้ทองคำคืนมา แต่ทุกคนก็คอยให้กำลังใจและภาวนาให้เจ้าหน้าที่ค้นหาให้พบ
กระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. ปรากฏว่า ทีมเจ้าหน้าที่สามารถค้นหาจนพบสร้อยคอทองคำรวมทั้งแหวนทองทั้งหมดอยู่ในถุงพลาสติกลึกจากผิวน้ำลงไปประมาณ 70-80 เมตร และอยู่ห่างจากจุดที่ตกประมาณ 10 เมตร จึงรีบนำขึ้นมา เมื่อครอบครัวของ นายสุริยะ เห็น ต่างแสดงอาการตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก
ด้าน นายสุริยะ จาริไพบูรณ์ กล่าวด้วยความดีใจว่า ครอบครัวของตนมีอาชีพทำปลากระชังขาย โดยได้เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่แพทั้งหมด 5 คน ก่อนเกิดเหตุทุกคนได้ชวนกันลงไปว่ายน้ำเล่นที่หน้าแพ จึงได้นำสร้อยคอ และแหวนทองคำของแต่ละคนมารวมกันใส่ถุงพลาสติกเอาไว้ และระหว่างที่ตนกำลังยื่นถุงพลาสติกให้แม่เป็นคนเก็บเอาไว้ แต่อยู่ๆ ตนกับแม่ก็รู้สึกถูกกระแสไฟฟ้าสถิตชอร์ตเข้าที่มือ จนถุงพลาสติกใส่ทองหล่นตกลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจจึงรีบแจ้งให้พนักงานของแพทราบ จากนั้นก็ได้รับความช่วยเหลือในการค้นหาจากเจ้าหน้าที่ชมรมกู้ภัยทางภาค 7 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันดำน้ำค้นหามาตลอดเวลา 6 วัน ซึ่งตนและครอบครัวต่างรู้สึกหมดหว่าแล้วว่าคงจะไม่ได้คืน แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ช่วยกันค้นหาจนเจอ ซึ่งตนและครอบครัวรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก และต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยกันหาจนพบ สำหรับสร้อยคอและแหวนทองมีน้ำหนักรวมกันมากกว่า 20 บาท ราคารวมกันประมาณเกือบ 500,000 บาท สินน้ำใจที่ครอบครับตนมอบให้ แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำภาค 7 ก็ไม่รับ ยิ่งทำให้ครอบครัวของตนรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก
