ชาวยโสธร รับบัตรคนจน หลายคนยังสับสนการใช้

วันที่ 21 กันยายน ที่สำนักงานคลัง จ.ยโสธร ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมารับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรผู้มีรายได้น้อย โดยมี น.ส.เพ็ญศรี เจริญสุทธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการ จ.ยโสธร เป็นคนมอบบัตรให้กับผู้มีสิทธิรายแรก และมีนางวิชิตา เลิศพุทธิพงศ์พร คลังจ.ยโสธร ให้การต้อนรับพร้อมกับชี้แจงทำความเข้าใจในการใช้บัตรดังกล่าว

นางวิชิตา กล่าวว่า จ.ยโสธร มีผู้ลงทะเบียนในโครงการทั้งหมดจำนวน 136,145 คนมีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจำนวน 105,246 คน แยกตามหน่วยงานลงทะเบียนประกอบด้วย ธ.ก.ส. จำนวน 55,472 คน ออมสินจำนวน 35,097 คน กรุงไทยจำนวน 12,269 คน สำนักงานคลังยโสธรจำนวน 2,408 คน ซึ่งขณะนี้บัตรทั้งหมดได้กระจายบัตรทั้งหมดไปตามหน่วยงานแล้ว

นางวิชิตา กล่าวว่า ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งภาครัฐจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านค้าอื่นๆที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ซึ่งผู้ที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทต่อปีจะได้รับเงิน 200 บาทต่อเดือน หากรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปีจะได้รับเงิน 300 บาทต่อเดือน และยังได้รับวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าชหุงต้มจากร้านที่กระทรวงนพลังงานกำหนด 45 บาท ต่อคน ต่อสามเดือน นอกจากนี้ยังลดค่าใช้จ่าย การเดินทางประกอบด้วยวงเงินค่าโดยสารรถเมล์-รถไฟฟ้า 500 บาทต่อเดือน วงเงินค่าโดยสารรถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน โดยหากเงินดังกล่าวหากไม่ได้ใช้จะถูกตัดยอดไปและไม่สามารถสะสมได้ และทุกๆทางรัฐก็จะเติมเงินเข้าระบบให้ในวันที่ 1 ของทุกเดือน

“ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมีระบบชิปการ์ดต้องนำไปรูดกับเครื่องที่ติดตั้งอุปกรณ์รับชำระบัตรอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ (EDC) ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยในจังหวัดยโสธรจะติดตั้งเครื่อง EDC ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 ตุลาคม ส่วนร้านค้าในจังหวัดยโสธรเรานั้นขณะนี้มีทั้งหมด 100 ร้านที่จะเข้าร่วมโครงการ แต่อยางไรก็ตามจากการสำรวจคาดว่าไม่เพียงพอเนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่อยู่ต่างอำเภอ จะเดินทางมาซื้อที่ร้านค้าประชารัฐยังลำบากอยู่ ดังนั้นพาณิชย์จังหวัดจึงร่วมกับคลังจังหวัด พยายามหาร้านค้ามาเพิ่มขึ้นอีกพร้อมกับติดตั้งเครื่องEDC ประมาณอีก 200 ร้านค้า โดยขณะนี้เครื่อง EDC ได้ติดตั้งภายในจังหวัดแล้ว 7 เครื่อง นอกจากนี้เงินที่จะมาหมุนเวียนใน จ.ยโสธร คาดว่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อเดือน”นางวิชิตา กล่าว

Advertisement

นางวิชิตา กล่าวยังกล่าวอีกว่านอกจากนี้ยังห้ามนำบัตรสวัสดิการประชารัฐไปขายต่อเด็ดขายหรือส่งต่อบุคคลอื่นบุคคลใดที่ไม่เกี่ยวข้อง หากตรวจสอบพบจะถูกตัดสิทธิ์ไปตลอด ส่วนสวัสดิการต่างเช่นค่าน้ำคาไฟรัฐบาลกำลังประชุมเพื่อหามาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยต่อไป ส่วนการอุทธรณ์คุณสมบัติในกรณีผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบนั้นและต้องการอุทธรณ์สามารถตรวจสอบคุณสามบัติใหม่ได้ในวันที่ 29 ก.ย.นี้

ขณะที่นางไพ ทรงหอม อายุ 45 ปี อาชีพทำนา อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 11 บ้านคำน้ำสร้าง ต.ค้อเหนือ อ.เมืองยโสธร ผู้ที่มารอรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่เช้าตรู่ เผยว่าตนเดินทางรถโดยสารเพื่อมารับบัตรผู้มีรายได้น้อย ซึ่งตนมีรายได้ 50,000 บาทต่อปี จึงได้รับเงินช่วยเหลือ 200 บาทต่อเดือน และยังไม่ทราบว่าบัตรดังกล่าวสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งพอมารับรู้ว่าบัตรดังกล่าวใช้อะไรได้บ้างแต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก ตนอย่างเสนอว่าหากเป็นไปได้รัฐไม่ควรตัดยอดเงินในส่วนต่างๆที่ใช้ไม่หมด ควรจะให้เก็บไว้เป็นเงินสะสมได้เรื่อยๆ ส่วนที่ตนได้รับเงิน 200 บาทนั้นตนคิดว่าไม่เพียงพอแน่นอนแต่ก็ยังดีกว่าที่รัฐบาลไม่ได้ช่วยอะไรเลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image