หัวหน้าอุทยานเขาใหญ่แจ้งจับ 2 นักวิ่งแหย่ “งาเบี่ยงเล็ก” หมอล๊อต ชี้ทำให้ช้างใจดีโมโหได้ อันตรายมาก

จากกรณี ที่โลกออนไลน์ ได้มีการแชร์ภาพจากผู้ใช้เฟชบุ๊ค Kamron Petprayoon ได้เผยแพร่ภาพเหตุการณ์นักวิ่งชายหญิง ที่วิ่งเข้าไปใกล้และถ่ายภาพเซลฟี่กับช้างพลาย ที่กำลังเดินหากินเถาวัลย์ด้วยความสบายใจอยู่บนถนนทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จนทำให้ช้างเกิดโมโห และวิ่งไล่ทั้งสองคนนั้น จนกลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากวิจารณ์ในโลกโซเซี่ยลอย่างมาก

วันที่ 21 กันยายน นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไปเรียกตัวนักวิ่งทั้งคู่มาพบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว เพราะหลังจากเห็นรูปในโซเซี่ยลก็ทราบทันทีว่าทั้ง 2 คนเป็นใคร เนื่องจากขึ้นมาวิ่งที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นประจำ ทั้งนี้โทษของการไปแหย่สัตว์ป่า จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งแม้ว่าทั้งสอง จะไม่ทำให้อุทยานแห่งชาติเสียหาย แต่หากละเลยไม่แจ้งจับก็จะเป็นเยี่ยงอย่างให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆเอาเป็นแบบอย่าง ทำให้เกิดอันตรายได้

นายสัตวแพทย์(นส.พ.)ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องการดำเนินคดี เป็นเรื่องของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่จะพิจารณา แต่ส่วนตัวแล้วเห็นว่า อยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนสำหรับคนอื่น และขอตำหนิแบบห่วงใย ว่า การไปถ่ายเซลฟี่กับช้างนั้น จะจงใจหรือไม่ ก็เท่ากับว่าเข้าไปหาช้างแบบใกล้ๆแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะระเบียบของอุทยานฯก็แจ้งเอาไว้อยู่แล้ว อ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดมาหลายครั้งแล้วด้วย

“ช้างตัวดังกล่าวชื่อ พี่งาเบี่ยงเล็ก เป็นช้างอารมณ์ดี นิสัยดี ไม่ดุร้าย แต่ถ้าใครทำให้เจ้างาเบี่ยงเล็กโมโห คิดดูเอาเองแล้วกันว่าไปกระตุ้นอะไรมันหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานี้เป็นปลายฝนต้นหนาว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก็ยังคงพร้อมจะรับนักท่องเที่ยว และเป็นช่วงเวลาที่จะพบเห็นสัตว์ป่า โดยเฉพาะช้างง่าย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ใกล้ฤดูผสมพันธุ์ ช้างก็จะออกมาอยู่บนถนน ที่มีความอบอุ่น มากกว่าเดินในป่า ที่ต้องใช้พลังงานมาก และออกหากินเถาวัลย์สะสมพลังงานเพื่อให้ร่างกาย และงาแข็งแรง พร้อมจะต่อสู้กับช้างตัวอื่น เพื่อให้ได้ผสมพันธุ์ ทั้งนี้ขอชื่นชมผู้ที่ถ่ายรูปดังกล่าวไว้ ในฐานะตาวิเศษของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และบุคคล 2 คนในภาพก็ต้องถูกตำหนิจากสังคมมากอยู่แล้ว ขอให้เรื่องนี้เป็นครู เป็นบทเรียนกับคนอื่นๆ ว่าให้ยึดถือข้อปฏิบัติและระเบียบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และขอฝากไว้ว่า การเซลฟี่กับสัตว์ป่าที่อันตรายไม่ได้เป็นเรื่องโก้เก๋ แต่เป็นการประจานตัวเอง”นสพ.ภัทรพล กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image