พระเมรุมาศเสร็จ10 ต.ค. บอร์ดสร้างพระเมรุมาศประชุมนัดสุดท้ายหลังพระเทพฯ ทรงชื่นชมงานลุล่วงด้วยดี

เมื่อวันที่ 21 กันยายนเวลา 13.30 น.ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (พช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการอัญเชิญราชรถและพระยานมาศหลังการบูรณะปฏิสังขรณ์ออกจากโรงราชรถเพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ข้าราชการกรมศิลปากร จิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี ซึ่งจัดขึ้นตามโบราณราชประเพณี เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติอย่างสูงสุด

จากนั้นนายกฯ เข้าสู่ปะรำพิธี ด้านหน้าโรงราชรถ จุดธูปเทียนบูชาเครื่องสังเวย พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ อ่านโองการบวงสรวงเทพยดา และดวงพระวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราชเพื่อขออัญเชิญราชรถ และพระยานมาศเคลื่อนออกจากโรงราชรถ แล้วถวายน้ำสังข์ ใบมะตูม เจิมที่ราชรถและพระยานมาศ นายกฯ วางพวงมาลัยที่ราชรถและพระยานมาศ ต่อมาสำนักการสังคีต กรมศิลปากร แสดงละครสมโภชราชรถ และพระยานมาศตามโบราณราชประเพณี เรื่องสังข์ศิลป์ชัย ตอนพระสังข์ศิลป์ชัยอัญเชิญราชรถ ประธานไปยังโต๊ะเครื่องบวงสรวง อธิษฐานจิตขอพระราชทานจากบูรพมหากษัตริย์ เทพเทวา ขออนุญาตเคลื่อนขบวนราชรถและพระยานมาศออกจากโรงราชรถ(เจ้าพนักงานประโคม ฆ้อง สังข์ บัณเฑาะว์) ในการนี้พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ หัวหน้าพราหมณ์หลวง ได้กำหนดเวลาฤกษ์ ในวันที่ 21 กันยายน 2560 ตรงกับ วันพฤหัสบดี ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 เวลา 14.51 น.ลัคนาสถิตราศีธนู เป็นมหัทธโนฤกษ์ หมายถึง คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี มีพระจันทร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น “บูรณะฤกษ์” เพื่อบวงสรวงเทพยดาและดวงวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราช และครูอาจารย์ที่ประสิทธิ์วิทยาการทุกสาขา

Advertisement

เมื่อถึงเวลามหัทธโนฤกษ์ 14.51 น.เจ้าหน้าที่ทหาร กำลังพลฉุดชัก เข้าประจำราชรถและเริ่มเคลื่อนขบวนตามลำดับ ดังนี้ ราชรถปืนใหญ่ ราชรถน้อย และ พระมหาพิชัยราชรถโดยการเคลื่อนพระมหาพิชัยราชรถ มีพล.อ.ประยุทธ์ นำฉุดชัก และแบ่งสายฉุดชักออกเป็น 4 สาย ได้แก่ สายที่ 1 มี พล.อ.ธนะศักดิ์ นำฉุดชัก สายที่ 2 พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกฯ นำฉุดชัก สายที่ 3 นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำฉุดชัก และสายที่ 4 นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการวธ. นำฉุดชัก

Advertisement

จากนั้นสำนักการสังคีต กรมศิลปากรจัดการแสดงระบำชุดดาวดึงส์บทร้องของระบำชุดนี้เป็นพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์พรรณนาถึงความวิจิตรอลังการ ความงดงามโอฬารของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และทิพยสมบัติของพระอินทร์ประหนึ่งว่าเหล่าเทวดา นางฟ้า ได้มาร่วมยินดีในความสำเร็จของพิธีการ จากนั้นประธานโปรยข้าวตอกดอกไม้เครื่องสังเวยที่โต๊ะบวงสรวงเป็นอันเสร็จพิธี

ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.อ.ธนะศักดิ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศฯ โดยพล.อ.ธนะศักดิ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายของคณะกรรมการฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานคำแนะนำและให้กำลังใจทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทั้งนี้ที่ประชุมกำหนดติดตั้งพระวิสูตรหรือผ้าม่าน บุษบกองค์ประธาน 1 ด้าน เพื่อทดสอบการรับน้ำหนักก่อนติดตั้งครบทั้ง 4 ด้าน คาดว่าการจัดสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ตุลาคม ส่วนนั่งร้านจะยังคงติดตั้งอยู่จนกว่าจะเสร็จสิ้นพระราชพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ในวันที่ 18 ตุลาคม จากนั้นจะรื้อนั่งร้านลงภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะเป็นการเก็บรายละเอียดครั้งสุดท้าย ในส่วนการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถ ราชยาน ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และกำหนดอัญเชิญราชรถไปฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศยังพื้นที่จริงในวันที่ 7,15,21 ตุลาคม ส่วนสัปดาห์หน้าจะไปตรวจสอบความคืบหน้าการจัดสร้างพลับพลายก ซึ่งขณะนี้ใกล้แล้วเสร็จ การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่กำหนด ซึ่งถือเป็นความร่วมมือของทุกฝ่ายอย่างแท้จริงเพื่อถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ส่งเสด็จอย่างสมพระเกียรติ

รองนายกฯ กล่าวต่อว่า ในพิธีบวงสรวงอัญเชิญราชรถทั้ง 3 องค์ ครั้งนี้นายกฯ ขอบคุณทุกคนที่ร่วมปฏิบัติงาน จนราชรถมีความสง่างามสมพระเกียรติ เพราะถือเป็นราชประเพณีหนึ่งเดียวในโลก เป็นความรักความสามัคคีของคนทั้งประเทศเพื่อถวายแด่ในหลวงร.9

จากนั้นเวลา 17.00 น.รองนายกฯ ติดตามความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ ที่บริเวณท้องสนามหลวง ฝั่งทิศใต้ โดยพล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า การก่อสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ คืบหน้ามากกว่า 95 % โดยพระเมรุมาศ บุษบกทั้งเก้ายอดติดตั้งองค์ประกอบทั้งหมดใกล้แล้วเสร็จ ดาวเพดานภายในบุษบกประธาน สะพานเกรินทางทิศเหนือของพระเมรุมาศได้ประกอบและติดตั้งกลไกกว้านและรอกแล้วเสร็จ ส่วนงานตกแต่งด้วยผ้าทองย่น ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตั้งรอบฐานบุษบก รวมทั้งผนังภายนอกของบุษบกประธาน ซ่าง และหอเปลื้อง พระที่นั่งทรงธรรม ติดตั้งรวยระกาและหน้าบันส่วนมุขประธานแล้วเสร็จ ส่วนงานตกแต่งภายในโถงกลางและปีกอาคารทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนการเก็บรายละเอียดและปูพรมพื้นส่วนโถงทั้งหมด เริ่มทดสอบระบบปรับอากาศ งานตกแต่งภายในห้องประทับและห้องรับรองต่างๆ ใกล้แล้วเสร็จ

“งานภูมิสถาปัตยกรรม ส่วนฝายน้ำล้นและบ่อแก้มลิงได้เตรียมพื้นที่เสร็จเรียบร้อย มูลนิธิชัยพัฒนาได้ติดตั้งกังหันน้ำชัยพัฒนาและเครื่องกลเติมอากาศแล้วเสร็จ ส่วนแปลงนาได้หล่อคันนารูปเลข ๙ ไทย ฉาบสีดินทอง กรมการข้าวได้นำต้นข้าวช่วงอายุต่างๆ มาลงตามตำแหน่ง และได้ลงพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ ทั้งยางนา หญ้าแฝก มะม่วงมหาชนก อันสื่อถึงโครงการพระราชดำริ แล้วเสร็จ ส่วนพื้นลานในมณฑลพิธี ได้ดำเนินการปรับพื้นที่ เทพื้นและปูบล็อกซีเมนต์เกือบทั้งหมด ติดตั้งไม้ดัดแล้วทั่วทั้งพื้นที่ ส่วนบริเวณสระอโนดาต เตรียมบ่อน้ำล้นและติดตั้งโขดหินไว้ครบทุกด้าน พร้อมได้ทดสอบงานระบบหมุนเวียนน้ำ หัวฉีดละออง ส่วนงานจัดสร้างฉัตรโลหะฉลุลายกลีบบัว ติดตั้งบริเวณรั้วราชวัติ จัดทำโครงสร้าง ประกอบวงฉัตร ทำสีแล้วเสร็จ รอการติดตั้ง และฉัตรผ้าทองย่น จัดทำโครงสร้างฉัตร ทำสีแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างจัดฉลุผ้าทองย่น ใส่แวว และสาบผ้าหลังและประกบเข้าวง”รองนายกฯกล่าว

นางวิจิตร ไชยวิชิต ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านศิลปกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวว่า ขณะนี้การบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถ ราชยานและพระยานมาศ ทุกองค์เสร็จสมบูรณ์ 100% พร้อมสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยกรมศิลปากรใช้เวลากว่า 9 เดือนในการบูรณะ ซึ่งในส่วนของพระมหาพิชัยราชรถ พระราเชนทรยานน้อย พระที่นั่งราเชนทรยาน ดำเนินการบูรณะปิดทองประดับกระจกใหม่ทั้ง 100% นอกจากนี้ ยังมีการจัดสร้างราชรถปืนใหญ่ ในการอัญเชิญพระบรมโกศเวียนอุตราวัฏรอบพระเมรุมาศ และจัดสร้างพระราเชนทรยานน้อย ใช้ในการอัญเชิญพระบรมราชพระสรีรางคาร เพื่อถวายพระเกียรติสูงสุด โดยมีข้าราชการและจิตอาสาเข้าร่วมในการนี้ประมาณ 200 คน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image