นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรกำลังเร่งตรวสอบภาษีบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญกว่า 10 บริษัท พบว่ามีการหลบเลี่ยงภาษี และเสียภาษีไม่ครบถ้วน คิดเป็นเม็ดเงินภาษีขาดไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยกรมสรรพากร ส่งเรื่องดำเนินคดีอาญาแล้ว 1 บริษัท คือ บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ในข้อหาหลบเลี่ยงภาษีวงเงินกว่า 7 พันล้านบาท โดยได้มีการส่งไปดำเนินการคดีอาญาเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา และหลังจากนี้จะทยอยดำเนินคดีกับบริษัทที่เหลือต่อไป
“กรมสรรพากรไม่ได้นิ่งนอนใจกับการตรวจอสบบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญ และขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลบริษัทที่เหลือ เพื่อเรียกเก็บภาษีในส่วนที่ขาด พร้อมท้ังดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด แต่ด้วยกฎหมายกรม ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดผู้เสียภาษีมากนัก เพราะข้อมูลผู้เสียภาษีเป็นความลับ จึงทำให้ดูเหมือนว่าไม่ค่อยมีความคืบหน้าในเรื่องนี้ เพราะจะไม่มีการแถลงข่าวหรือทำข่าวประชาสัมพันธ์ แต่กรมยืนยันว่าที่ผ่านมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่”นายประสงค์ กล่าว
นายประสงค์กล่าวว่า สำหรับอีกกว่า 10 บริษัทที่ยังเหลืออยู่ บางรายเสียภาษีขาดไประดับหลายพันล้านบาท บางรายระดับ 100 ล้านบาท บางรายระดับ 10 ล้านบาท กรมพร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ในการตรวจสอบภาษีของกลุ่มที่เสียภาษีอย่างไม่ถูกต้อง และเรียกเก็บภาษีคืนมาให้ครบถ้วน ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญดังกล่าว พบว่ามีทรัพย์สินจำนวนมาก น่าจะเพียงพอในการยึดมา เพื่อชดเชยภาษีในส่วนที่ขาดได้ แหล่งข่าว จากกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในการตรวจสอบรายได้ บริษัทโอเอทรานสปอร์ต จำกัด ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทดังกล่าวแจ้งว่ามีรายได้รวม 25 ล้านบาท แต่สรรพากรตรวจพบรายได้หลายหมื่นล้านบาท ซึ่งนอกจากรายได้ในเรื่องจัดทัวร์แล้วยังมีรายได้จากการขายสินค้าที่ระลึก และการให้บริการในรูปแบบอื่นๆ รวมอยู่ด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมาการตรวจสอบบริษัทัวร์ศูนย์เหรียญ กรมสรรพากรทำงานร่วมกับ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตำรวจท่องเที่ยว และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) เพื่อดูว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดใดบ้าง ในส่วนของกรมสรรพากรเน้นเรื่องการตรวจสอบบัญชีและดูการเสียภาษีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ถูกต้องไหม
แหล่งข่าวกล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการทัวร์ศูนย์เหรียญ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน เข้ามาจัดตั้งบริษัทในไทย ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร โดยดำเนินการผ่านนอมินีที่เป็นคนไทย ซึ่งคนไทยเป็นนิมินีบางรายก็เสียชีวิตไปแล้ว บางรายถูกแอบนำบัตรประชาชนไปใ้ช้ ดังนั้นในการตรวจสอบภาษีครั้งนี้จึงไม่ง่าย เพราะช่องทางการชำระเงินของทัวร์ศูนย์เหรียญทำผ่านระบบวีแชท ของจีน กรมใช้เวลาพอสมควรในการแกะรอยเส้นทางการเงิน เพื่อประเมินภาษี
