วันที่ 28 กันยายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพะเยา ได้จัดทำโครงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ร่วมกับภาคีเครือข่ายจังหวัดพะเยา ขึ้น โดยแต่ละอำเภอจะมีการเปิดตลาดชุมชนเพื่อให้กลุ่มอาชีพของสตรีนำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่าย เป็นมาตรการประเมินผลการดำเนินงานของการบริหารเงินกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดพะเยาที่มีความยั่งยืน
นายวิรุฬห์ สิทธิวงค์ นายอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา กล่าวว่า อำเภอภูซางโดยสำนักงาน พช.อ.ภูซาง แจ้งว่ามีกลุ่มสตรีที่เป็นสมาชิกของกองทุนได้ยื่นโครงการกู้ยืมเงินไปรายละไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท แต่ละกลุ่มจะมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 5 คน ได้เงินมาแล้วประกอบอาชีพพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนเลี้ยงตัวเอง ครอบครัวและในชุมชน ทำให้เกิดความเข้มแข็งของเศรษฐกิจระดับชุมชน ท้องถิ่น ซึ่งเป็นฐานรากของระบบเศรษฐกิจที่สูงขึ้นไป โดยจะพบว่ากลุ่มสตรีที่นำเงินกู้มาประกอบอาชีพประเภท อาหาร ผักสวนครัว เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย กาแฟ เป็นต้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารทำให้เกิดความยั่งยืนและโอกาสทางการตลาดมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน
นางสาวอุไร ปันจุรี อายุ 41 ปี บ้านป่าสัก หมู่ 4 ต.ป่าสัก อ.ภูซาง กลุ่มปลูกผักสวนครัว เปิดเผยว่า เดิมตนเป็นพนักงานบัญชีของโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดพะเยา งานในห้องแอร์สบายก็จริง แต่รายได้คงที่ เมื่อภาวะเศรษฐกิจเริ่มถดถอยจึงได้กลับบ้านและหันมาทำอาชีพเกษตรกรรม จึงตั้งกลุ่มขึ้นมาได้ทำโครงการยื่นกู้เงินจากกองทุนฯ ในปี 2560 จำนวน 100,000 บาท มาลงทุนปลูกผักสวนครัว คือ ผักกูด ชะอม แตงกวา บนเนื้อที่ปลูกพืชผักสวนครัวผสมผสานกว่า 2-3 ไร่ ไม่นับผลไม้ยืนตัน ทุกวันตนและครอบครัวจะเก็บพืชผักสวนครัวไปขายในตลาดสดในเมืองพะเยา ถ้ามีไม่มากก็เก็บขายตลาดสดในพื้นที่ คือ ตลาดสดสบบง อ.ภูซาง เฉลี่ยการขายผักกูด แตงกวา ผักชะอม มีรายได้ประมาณวันละ 1,000 บาท
“กองทุนฯ สตรี ถือว่าเกิดขึ้นเพื่อให้โอกาสสตรีได้มีเงินทุนประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืนและมีความมั่นคง เป็นนโยบายที่ดีมาก เพราะหากไปกู้เงินนอกระบบดอกเบี้ยแพง แต่เงินกองทุนฯ ดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ชำระต้นและดอกทุกๆ 6 เดือน กลุ่มใช้เวลาชำระทั้งต้นและดอกในเวลา 2 ปี ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ภาระ แต่เป็นโอกาสที่รัฐบาลให้แก่กลุ่มสตรีได้มีทางเลือกประกอบอาชีพที่มั่นคง” นางสาวอุไร กล่าว
