เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักศึกษาจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตวังท่าพระ ทั้งศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่าและอาจารย์ประมาณ 50 คน ร่วมวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์บนผ้าใบ ขนาด 1.90 เมตร x 2.60 เมตร รวมทั้งสิ้น 9 ภาพ เพื่อน้อมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ภายหลังได้นำภาพร่างของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาติดตั้งที่กำแพงมหาวิทยาลัยฝั่งถนนมหาราช หรือบริเวณฝั่งท่าช้างเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
นายทีฆวุฒิ บุญวิจิตร รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะจิตกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการวาดภาพแห่งการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยมีตัวแทนนักศึกษาจากทุกชั้นปี ทั้งนักศึกษาปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาตรีเอก และศิษย์เก่าร่วมกันวาดภาพ ก่อนหน้านี้ ตนได้มอบหมายให้นักศึกษาร่างพระบรมสาทิสลักษณ์ในความประทับใจหรือมุมมองที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ในแบบของตนอย่างไม่ปิดกั้นความคิด ส่วนใหญ่ได้สะท้อนแนวคิดเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระอัจริยภาพ ออกมาเป็นภาพวาดได้อย่างดี ยกตัวอย่างผลงานของนักศึกษาปริญญาโท คือ พระบรมสาทิสลักษณ์ของความประทับใจเกี่ยวกับพระราชประวัติ ตั้งแต่ทรงพระเยาว์และจริยวัตรอันงดงาม โดยนักศึกษาทุกคนไม่เพียงแต่วาดตามแบบ แต่ยังแต่งเติมองค์ประกอบภาพเพิ่มเติม ทั้งโทนสีและบรรยากาศของภาพ ซึ่งได้เริ่มวาดภาพตั้งแต่เวลา 09.00 น.และจะแล้วเสร็จในช่วงเย็นของวันนี้ ทั้งนี้นอกเหนือจากการวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ถวายความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนร่วมชมพระบรมสาทิสลักษณ์ ขั้นตอนของงานจิตรกรรม และรำลึกถึงพระองค์ด้วย เมื่อแล้วเสร็จสมบูรณ์ ทางมหาวิทยาลัยจะติดตั้งภาพวาดทั้งหมดไปจนถึงวันที่ 28 ตุลาคม จากนั้นจะนำไปติดตั้งในพื้นที่เหมาะสมต่อไป อาทิ พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัย หรือมอบให้แก่องค์กรต่างๆ
นายทีฆวุฒิกล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่ผมประทับใจ คือ ความร่วมมือของนักศึกษาคณะจิตกรรมฯ ซึ่งทุกคนมีส่วนร่วมผลักดันให้เกิดกิจกรรมภาพวาดนี้ อีกทั้งยังเปรียบเหมือนตัวแทนแสดงออกความรู้สึกของชาวไทย โดยสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ การทำงานร่วมกัน แม้ปกติงานศิลปะจะค่อนข้างทำงานเป็นปัจเจกบุคคล นั้นสะท้อนถึงความรักและความสามัคคีตามแนวทางพระราชดำริที่คนรุ่นใหม่ได้สะท้อนออกได้ดี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคณะจิตกรรมฯ ได้ร่วมถ่ายทอดงานศิลปะในแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 อาทิ งานวาดภาพบนกำแพง โครงการวาดภาพถวายความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตามหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทางคณะจิตกรรมฯ จะมีส่วนร่วมในการร่วมถวายอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย”
นายเมธี พรสิริโชติกุล อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 เป็นตัวแทนบอกเล่าความประทับใจว่า แม้ตนและเพื่อนนักศึกษาจะเพิ่งเข้าเรียนในชั้นปีที่ 1 แต่อยากแสดงศักยภาพที่มีต่องานจิตรกรรม ซึ่งเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่อย่างเราก็สามารถวาดภาพอันงดงามได้เช่นกัน รวมถึงอยากมีส่วนร่วมในกิจกรรมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชครั้งสุดท้าย สำหรับพระบรมสาทิสลักษณ์ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 นี้ ได้หยิบยกเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เสด็จพระราชดำเนินไปในพื้นที่ทุรกันดาร โดยในครั้งเยี่ยมประชาชนนั้น พระองค์ทรงแย้มพระสรวล แสดงถึงความรักและความห่วงใยที่มีปวงชนชาวไทย
“เหตุผลที่ตัดสินใจเลือกภาพนี้เพราะตนและเพื่อนเห็นแล้วรู้สึกประทับใจ ขณะเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ในครั้งแรก พระพักตร์ของพระองค์มีรอยแห่งความสุข เมื่อมองไปแล้วเราก็สุขใจด้วย ครั้งนี้ตนรู้สึกประทับใจที่สุดเพราะได้แสดงออกความรักที่มีต่อพระองค์ ทำให้ตนรู้ว่างานศิลปะเกี่ยวเนื่องกับทุกอย่าง ทั้งพระบรมโกศและพระเมรุมาศ ล้วนแล้วต้องใช้ฝีมือของศิลปินทั้งสิ้น แม้เป็นงานภาพวาดก็รู้สึกได้เช่นกัน ทำให้รู้สึกว่าตนเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีสำคัญนี้ด้วย”
ด้านนายวีรญา ยามันสะบีดีน อายุ 24 ปี ศิษย์เก่าคณะจิตกรรมฯ ปัจจุบันเป็นศิลปินรับจ้าง กล่าวว่า ภายหลังทราบว่าทางมหาวิทยาลัยศิลปากรจะจัดกิจกรรมวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ขึ้น ก็ได้ชักชวนเพื่อนศิษย์เก่าเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างไม่ลังเลใจเลย เพราะถือเป็นการได้ทำอะไรถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้าย สำหรับพระบรมสาทิสลักษณ์ที่เลือกมานั้น ก่อนหน้านี้แต่ละคนได้มีภาพในความประทับใจที่หลากหลาย แต่ท้ายสุดก็เลือกพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ฉลองพระองค์ชุดลูกเสือ ซึ่งไม่ได้เป็นภาพที่ลักษณะโทนสีขาวดำ เนื่องจากอยากให้ผู้คนมองเห็นพระองค์ในด้านอื่นที่ไม่จำเป็นต้องเป็นความโศกเศร้าอย่างเดียว
นายวีรญากล่าวอีกว่า ผมและเพื่อนรู้สึกตื้นตันใจมาก ตั้งใจอยากเขียนภาพเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้เป็นภาพวาดที่ดีที่สุด ก่อนหน้านี้ก็ได้มีส่วนร่วมเขียนภาพต่างๆ เช่น พระบรมสาทิสลักษณ์วาดบริเวณกำแพงฝั่งพระบรมมหาราชวัง ภาพวาดที่เกี่ยวข้องกับในหลวงที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้น ทั้งนี้ ส่วนตัวผมเองมีความประทับใจต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 คือ ความเป็นผู้นำที่มีความโอบอ้อมอารี พระองค์ไม่ปิดกั้นประชาชน ทั้งเรื่องเพศและการนับถือศาสนา รวมถึงการลงมือทำเป็นตัวอย่างให้ประชาชนด้วยพระองค์เอง
