ชาวบางสะพานโร่แจ้งกองปราบโดนตุ๋นลงทุนตลาดหุ้นเป็นร้อยราย เสียหาย 100 ล้าน

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) น.ส.นภาภรณ์ จันทนะ อายุ 28 ปี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมผู้เสียหายในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีก 20 ราย เข้าพบ พ.ต.ต.หญิง จันทนา สาตะมาน สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับ น.ส.อ้อย (นามสมมุติ) (น.ส.อธิปภา ทรัพย์พูลเพิ่ม หรือ น.ส.อ้อยทิพย์ ทรายละเอียด) อายุ 30 ปี เจ้าของร้านอ้อยบิงซู หลังอ้างว่าถูก น.ส.อ้อยหลอกให้นำเงินมาร่วมลงทุนเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินปันผลในอัตราสูง แต่กลับไม่ได้รับเงินปันผลและเงินลงทุนกลับคืนตามที่ตกลงกันไว้ โดยนำเอกสารหลักฐานการโอนเงินและข้อความการสนทนาระหว่างผู้เสียหายกับ น.ส.อ้อยมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ประกอบการพิจารณา

น.ส.นภาภรณ์กล่าวว่า เปิดร้านรับสักแทททูและสักคิ้ว ใน อ.บางสะพาน รู้จัก น.ส.อ้อยเจ้าของร้านบิงซูใน อ.บางสะพาน กลางปี 2559 ได้ชักชวนให้ตนนำเงินมาลงทุนเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ด้วยกัน อ้างว่าจะได้รับเงินปันผลค่าตอบแทนในอัตราสูงภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน จึงหลงเชื่อใช้ชื่อ น.ส.อ้อยเป็นผู้ลงทุนและบริหารจัดการเกี่ยวกับเงินลงทุน โดยเริ่มจากจำนวนเงินหมื่นกว่าบาท กระทั่งในช่วงแรกเห็นว่าได้รับเงินค่าปันผลตอบแทนจริง จึงนำเงินมาลงทุนเพิ่มเป็นจำนวนเกือบ 3 ล้านบาท พร้อมกับแนะนำให้ญาติพี่น้องนำเงินร่วมลงทุนเล่นหุ้นดังกล่าวด้วยกัน รวมเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท กระทั่งช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เริ่มไม่ได้รับเงินปันผลตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อสอบถาม น.ส.อ้อยอ้างว่า ติดปัญหาบางอย่าง ก่อนจะขาดหายการติดต่อไปในที่สุด ได้ตรวจสอบประวัติของ น.ส.อ้อย จึงทราบว่านอกจากตนและครอบครัวแล้ว ยังมีผู้เสียหายในอ.บางสะพาน ถูกหลอกลักษณะเดียวกับอีกนับร้อยราย คิดเป็นมูลค่าเสียหายรวมเกือบ 100 ล้านบาท ที่มาแจ้งความวันนี้มีความเสียหาย 70 ล้านบาท อีกทั้งยังพบว่าก่อนหน้านี้ น.ส.อ้อยยังเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.เชียงใหม่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา พร้อมกับสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อประกอบพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐาน ก่อนจะส่งเรื่องต่อไปยังผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image