ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
พลันที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่อง “ปฏิญญา ทำเนียบขาว” ไม่ว่าจะจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะจากพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าจะจากพรรคประชาธิปัตย์
สัมผัสได้จาก “ปฏิกิริยา” หงุดหงิด
เป็นความหงุดหงิดจากโฆษกระดับ “พล.ท.” เป็นความหงุดหงิดจากโฆษกระดับ “พ.อ.” เป็นความหงุดหงิดจากคุณห้อย คุณโหนบางคนใน “สนช.”
“การเลือกตั้งไม่ใช่การเลื่อนหรือไม่เลื่อน ไม่ใช่การขยับวันเลือกตั้ง”
“นักการเมืองต่างหากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองแล้วหรือยัง อย่าเสียจริต ขอให้รอหน่อย”
ความจริง ความสงสัย ความไม่แน่ใจของ “นักการเมือง” เป็นเรื่องธรรมดาอย่างปกติยิ่ง เนื่องจากพวกเขาถูกหลอกให้หลงมาแล้ว
จาก “ปฏิญญาโตเกียว” มายัง “ปฏิญญานิวยอร์ก”
หลอกให้หลงจากคำมั่นอันมาพร้อมกับเสียงเพลงกระหึ่มหลังรัฐประหาร “ขอเวลาอีกไม่นาน เราจะทำตามสัญญา”
กระนั้น หากศึกษาจากบทเรียนในทางประวัติศาสตร์การเมืองยุคใกล้ พลันที่มีการประกาศและบังคับใช้ “รัฐธรรมนูญ” ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะเลี่ยงหรือเลื่อน
ขอให้ดูจาก “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2511”
แม้ จอมพลถนอม กิตติขจร จะยื้อตาม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จากเมื่อเดือนตุลาคม 2501 เรื่อยมาแต่ในที่สุดก็ต้องจัดการเลือกตั้ง
เลือกตั้งในปี 2512 หลังมีรัฐธรรมนูญเพียง 1 ปี
หรือกระทั่งหลังรัฐประหารเดือนตุลาคม 2519 รัฐบาล “หอย” เพ้อฝันจะครองอำนาจต่อเนื่องไปอย่างน้อย 12 ปี แต่อยู่ได้ไม่ครบ 1 ปี ก็ถูกรัฐประหารซ้ำ
หลังมีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 ในเดือนเมษายน 2522 ก็มีเลือกตั้ง
หลังรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534 ก็เป็นอย่างนี้ แม้กระทั่งหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็เป็นเช่นนี้
มีแต่หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เท่านั้นที่ทำท่าจะ “ยาว”
ความเป็นจริงจากหลังรัฐประหารเมื่อเดือนตุลาคม 2520 ความเป็นจริงจากหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534 ความเป็นจริงจากหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
เป็น “บทเรียน” อย่างเด่นชัด
เด่นชัดว่าสิ่งที่จะติดตามมาอย่างกระชั้นภายหลังประกาศและบังคับใช้ “รัฐธรรมนูญ” ก็คือสัญญาณแห่ง “การเลือกตั้ง”
ยื้อจากปี 2559 มาจนถึงปี 2561 แต่ก็จำต้องสัญญาว่าจะต้องมีในปี 2562
อาการ “ยื้อ” อาการหงุดหงิดอย่างที่บรรดาองคาพยพแห่งขบวนการรัฐประหารสำแดงออกเป็นอาการที่ “นักการเมือง” เข้าใจ
แม้จะมีการวาง “มาตรการ” เพื่อการสืบทอด “อำนาจ” ไว้รอบด้าน
แต่นักการเมืองซึ่งมากด้วยความจัดเจนสามารถคาดหมายได้ไม่ยากว่า ถึงจะได้สืบทอดอำนาจตามกลไกของ “รัฐธรรมนูญ” ก็ไม่เหมือนเดิม
วินาทีที่จะตามมาภายหลัง “การเลือกตั้ง” จึงเป็นวินาทีแห่งการนับถอยหลังในทางการเมืองและในทางอำนาจ
การประกาศและบังคับใช้ “รัฐธรรมนูญ” จึงเป็นสัญญาณแรกในทางการเมือง จากนั้นก็ตามมาติดๆ ด้วยกฎหมายลูกฉบับแล้วฉบับเล่า
ที่จะเห็นแน่นอนในเดือนพฤศจิกายน คือการปลดล็อก
เป็นการปลดล็อกให้พรรคการเมือง เป็นการปลดล็อกให้นักการเมือง เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญและของกฎหมายลูก
ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะยื้อ อยากเป็นอย่างยิ่งที่จะขวาง