เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงกรณีชมรมเพื่อนโรคไตออกมาให้ข้อมูลว่าสต๊อกน้ำยาล้างไตและการจัดส่งมีปัญหากระทบกับผู้ป่วยทั่วประเทศ ว่า ปัญหาความชะงักของการจัดส่งน้ำยาล้างไตเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียง 2-3 วันของรอยต่อการส่งมอบข้อมูลและอำนาจการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้มีจำนวนน้ำยาล้างไตสะสม ขณะนี้ได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเป็นเพียงการชะงักการจัดส่งน้ำเกลือ ไม่ใช่การขาดแคลนน้ำเกลือ อาจจะได้น้อยลง เช่นจากเดิมเคยได้รับน้ำเกลือเพื่อใช้ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับ 1 เดือน ก็เหลือ 1 สัปดาห์ แล้วค่อยส่งตามไป และมีบางส่วนซึ่งน้อยจริงๆ ที่ต้องไปรับที่โรงพยาบาล จึงอาจจะทำให้ญาติผู้ป่วยจำนวนหนึ่งกังวล และตอนนี้การส่งเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
“ผมได้หารือกับบริษัทไปรษณีย์ไทย ซึ่งรับปากว่าจะเพิ่มจัดรถจัดส่งน้ำเกลือเพิ่มจากเดิมอีกร้อยละ 50 ซึ่งล่าสุดวันที่ 11 ตุลาคมนี้ รถจัดส่งได้ออกเดินทางแล้ว จังหวัดที่อยู่ใกล้ๆ เช่น อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา จะได้รับของ ส่วนจังหวัดที่อยู่ไกลจะได้รับในวันถัดไป ผู้ป่วยและญาติไม่ต้องกังวล อภ.คุยกับ รพ.ราชวิถีตลอด ไม่ปล่อยให้ขาดแน่นอน และเดินหน้าจัดซื้อรอบต่อไปแล้ว สถานการณ์จากนี้ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องราคาที่จัดซื้อนั้นยืนยันว่าถูกกว่าทั่วโลกแน่นอน” นพ.นพพรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการจัดซื้อยาประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะยาเอดส์ที่มีความกังวลว่าจะไม่เพียงพอ นพ.นพพรกล่าวว่า จากรายการที่มีการต่อรอง 110 รายการนั้น มีการต่อรองได้เกือบทั้งหมดแล้ว เหลืออยู่ 2 ตัวที่อยู่ระหว่างการต่อรองราคา ส่วนยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี ชื่อ อะบาคาเวียร์ นั้นขอชี้แจงอีกรอบว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่การเปลี่ยนผู้จัดซื้อจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มาเป็น รพ.ราชวิถี แต่เป็นเพราะปัญหาอยู่ที่บริษัทผู้ผลิตไม่สามารถจัดส่งได้ แต่บริษัทก็ได้ตัดยอดจากบริษัทอื่นส่งมาให้ประเทศไทย ข้อเสียคืออาจจะเคยได้ยาครั้งละ 2 เดือน ก็อาจจะได้ยาแค่ครั้งละ 1 เดือน แต่หลังจากเดือนพฤศจิกายน 2560 ไปแล้ว การจัดส่งยาดังกล่าวจะเข้าสู่ภาวะปกติ ดังนั้นขอให้ผู้ป่วยมั่นใจอาจจะขาดสต๊อก แต่คนไข้ไม่ขาดยาแน่นอน
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจในการดำเนินการของ รพ.ราชวิถี โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ ปีงบประมาณ 2561 มีหน้าที่จัดทำข้อเสนอรายการและแผนความต้องการ ควบคุมกำกับต่อรองราคา ให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสม และมอบหมายให้ รพ.ราชวิถี กรมการแพทย์ เป็นผู้จัดซื้อ ส่วนองค์การเภสัชกรรมเป็นผู้จัดเก็บและกระจาย ผ่านระบบ (Vendor Managed Inventory: VMI) เพื่อให้ไปถึงผู้ป่วยอย่างทั่วถึง ต่อเนื่องมีประสิทธิภาพ
นพ.มานัส โพธาภรณ์ ผอ.รพ.ราชวิถี กล่าวว่า น้ำยาล้างไตนำเข้าจากต่างประเทศ โดยทำสัญญาซื้อขายทั้งปี ขณะนี้มีสำรองจำนวน 3 ล้านถุง เพียงพอสำหรับผู้ป่วยแน่นอน สำหรับการกระจายน้ำยาล้างไตไปยังผู้ป่วย องค์การเภสัชกรรมได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัทไปรษณีย์ไทยให้เป็นผู้จัดส่ง ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า รพ.ราชวิถีมีความพร้อมในการดำเนินการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้ประชาชนจะได้รับยาที่ดี มีคุณภาพ ราคาสมเหตุผลแน่นอน
