เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางหารศึกษา (ก.ค.ศ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการสกสค. ที่มีนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีมติยุบคณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และข้อบังคับกองทุนฯ ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้นั้น ขณะนี้ทางสำนักงานสกสค. ได้ดำเนินการยกร่างคำสั่งยกเลิกข้อบังคับ ว่าด้วยกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการช.พ.ค. และข้อบังคับว่าด้วยเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา กรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ค.) เพื่อเสนอให้รัฐมนตรีว่าการศธ. ลงนาม ซึ่งเมื่อรัฐมนตรีว่าการศธ. ลงนามแล้ว เท่ากับเป็นการยกเลิกคณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ไปโดยปริยาย มีผลให้ต้องโอนเงินกองทุนสนับสนุนพิเศษฯ ที่เหลือทั้งหมดมาให้ทางสำนักงานสกสค. บริหารจัดการ ส่วนจะเป็นเงินจำนวนเท่าไรนั้นตนไม่ทราบตัวเลขที่ชัดเจน
นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อว่า การยกเลิกคณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ไม่ได้หมายความว่า มติที่ต่าง ๆ ที่ออกโดยคณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ชุดที่ผ่านมาจะเป็นโมฆะ ทั้งหมด ซึ่งเข้าใจว่าคนภายนอกอาจนำไปอ้างได้ ดังนั้นหากยกเลิกข้อบังคับว่าด้วย กองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ตาม โครงการ ช.พ.ค.และข้อบังคับ ว่าด้วยกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ตามโครงการช.พ.ส. แล้ว สำนักงานสกสค. จะเสนอให้คณะกรรมการสกสค. ที่มีรัฐมนตรีว่าการศธ. พิจารณา ทบทวนมติต่าง ๆ ที่คณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ชุดเก่าเคยอนุมัติ ว่ามีปัญหาหรือขัดต่อข้อกฎหมายหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นมติที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้ถูกฟ้องและไม่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการสกสค. ก็อาจจะต้องมีการทบทวนหรือยกเลิก แต่ ถ้าเป็นมติใดผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสกสค. แล้วก็ถือว่าไม่มีปัญหา นอกจากนั้นในการประชุมคณะกรรมการสกสค. เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังมีมติเห็นชอบตามที่ตนเสนอแต่งตั้งนายเอกศักดิ์ คงตระกูล และนายสำเริง กุจิรพันธ์ ปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการสกสค.
