การออกมาขานรับกำหนด“เลือกตั้ง”ในเดือนพฤศจิกายน 2561 ของหลายส่วนภายใน”แม่น้ำ 5 สาย”
น่าศึกษา
ไม่ว่าจะดังมาจาก นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ไม่ว่าจะดังมาจาก นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1
“เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ”
“การจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ สนช.ยืนยันว่าจะดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2561”
ชัดถ้อย ชัดคำ
คำถามก็คือ เมื่อทุกอย่างสามารถทำได้ กำหนดได้เช่นนี้แล้วทำไมจึงไม่ยืนยัน
ทำไมต้องรอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยัน
หากรับฟังจาก นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง อย่างละเอียด
ก็พอจะมี “คำตอบ”
ยิ่งหากรับฟังจาก นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตผู้พิพากษา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ยิ่งชัดแจ้ง แจ่มชัด
แจ่มชัด ชัดแจ้ง ดังที่ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ สรุปอย่างรวบรัด
“มีหลายคนกังวลว่ากฎหมายลูกอาจถูกสนช.คว่ำได้ เนื่องจากมีบางคนกล่าวว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุในชั้นสนช.ทำให้โรดแมปการเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป”
เพื่อให้เป็นไปตาม “ยุทธศาสตร์” ที่ว่า “เขาอยากอยู่ยาว”
คำประกาศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อนำมาประสานกับท่าทีของกรธ.และของสนช.
ก็ “ยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นไรฟัน”
ในเมื่อไม่ว่ากรธ. ไม่ว่าสนช. ล้วนมาจากคสช.ล้วนเป็นส่วน 1 ภายใน “แม่น้ำ 5 สาย”
โดยสารไปบน “เรือแป๊ะ”
ทุกอย่างจึงดำเนินไปตามหลักการแห่งอนุสาสน์ที่ว่า “ลงเรือแป๊ะต้องตามใจแป๊ะ”
เพียงแต่เหตุใดไม่ยอมทำให้”ชัด”ตั้งแต่เมษายน 2560