สมชัย ชี้ กรอบลต.150วันควรรวมประกาศผล ชี้ บิ๊กตู่ลงลต.ไม่ได้ แต่กม.ไม่ห้ามนั่งคนนอก

(แฟ้มภาพ)

สมชัย ชี้ อำนาจกำหนดวันเลือกตั้งเป็นของ กกต. แนะไม่ควรใช้เวลาจัดเลือกตั้งถึง 150 วัน ควรรวมถึงประกาศผล ป้องกันเลือกตั้งโฆฆะ ระบุ “บิ๊กตู่” ลงสมัคร ส.ส. ไม่ได้ เหตุติดเงื่อนไขไม่ลาออกหลังรธน. ใช้บังคับ 90 วัน แต่ยังนั่งเก้าอี้นายกฯคนนอกได้

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต. กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่าในเดือนมิถุนายน 2561 จะประกาศวันเลือกตั้ง และจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 ว่าตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 102 กำหนดให้การประกาศกำหนดวันเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต. ซึ่งหาก กกต.ชุดนี้ยังอยู่ปฎิบัติหน้าที่ก็จะพิจารณาว่า เมื่อ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้เมื่อใด ก็จะมีการประชุมกัน เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง โดยจะดูความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องอยู่ภายในกรอบ 150 วัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 กำหนด

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเห็นว่าระยะเวลาที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า เดือนมิถุนายน 2561 จะประกาศวันเลือกตั้ง และวันเลือกตั้งคือเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งรวมแล้วประมาณ 5 เดือน คือ 150 วันเต็ม จะเท่ากับว่านายกฯ คิดว่าระยะ‪เวลา 150 วัน‬ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดนั้น หมายความถึงเฉพาะแค่จัดเลือกตั้งเท่านั้นหรือไม่ ซึ่งตนเองกลับมองว่า ระยะเวลาดังกล่าวควรจะรวมถึงการประกาศผลการเลือกตั้งด้วย เพราะถ้าไปพิจารณารัฐธรรมนูญมาตรา 269 (ก) ที่กำหนดให้ กกต.ต้องจัดเลือกตั้ง ส.ว.จำนวน 200 คน กฎหมายใช้ถ้อยคำเดียวกับมาตรา 268 ว่าให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ คือ ให้ กกต.ดำเนินการจัดให้มีการเลือก ส.ว.จำนวน 200 คนให้แล้วเสร็จ ก่อนวันที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่น้อยกว่า 15 วัน

“ดังนั้นถ้อยคำว่า ให้แล้วเสร็จ ตามมาตรา 268 จึงน่าจะเป็นความหมายเดียวกันกับมาตรา 269 (ก) คือการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ให้แล้วเสร็จ‪ใน 150 วัน‬ต้องรวมถึงการประกาศที่ได้ ส.ส. 375 คนแล้ว “นายสมชัย กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับ กกต.ในขณะนั้น ที่จะต้องมาทำหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง ว่าจะมีความกล้าหาญตัดสินใจอย่างไร เพราะการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง จะส่งผลต่อการเมืองในอนาคต หากพรรคการเมืองที่แพ้การเลือกตั้งนำเรื่อง 150 วัน ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ หรือ นำมาเป็นประเด็นการเมือง

Advertisement

เมื่อถามว่า มีเสียงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งพรรคการเมือง และลงสมัครรับเลือกตั้ง นายสมชัยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ เพราะบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 ให้นำความตามมาตรา 264 วรรคท้าย กำหนดให้เอาความในมา 263 วรรคเจ็ด ที่ระบุว่าในทำนองว่า หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐมนตรี จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องพ้นการดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายใน 90 วัน นับแต่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ ซึ่งตอนนี้ถือว่าเลยช่วงเวลาดังกล่าวมาแล้ว ส่วนการจะไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากต้องรอการปลดล็อกพรรคการเมือง จึงจะสามารถดำเนินการกิจกรรมทางการเมืองได้ ซึ่งก็รวมถึงการขอจดแจ้งจัดตั้งพรรค แต่ในกรณีหากจะเป็นนายกฯ คนนอก กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ แต่ต้องเป็นเหตุในกรณีตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ประชุมร่วมรัฐสภาไม่อาจแต่งตั้งนายกฯจากบัญชีของพรรคการเมือง

“หากพิจารณาคำสั่ง คสช. ที่ 57 จะเห็นว่ามีข้อห้ามหลายอย่าง ห้ามพรรคจัดประชุมใหญ่ ดำเนินการกิจกรรมทางการเมืองใดๆ จดทะเบียนจัดตั้งพรรค และห้ามนำเงินกองทุนพรรคการเมืองไปอุดหนุนพรรค หรือแม้แต่จะเข้ามาขอแบบฟอร์มเพื่อไปเตรียมการตั้งพรรคใหม่ก็ยังไม่สามารถทำได้ เพราะ กกต.ยังไม่ได้ออกระเบียบรองรับ แต่คาดว่าจะออกระเบียนได้‪ในวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม‬ และการมีผลบังคับใช่ก็น่าจะเป็นช่วงที่ คสช.จะปลดล็อกพรรคการเมืองพอดี”นายสมชัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image